หากพูดว่า “สิ่งที่ได้มาฟรีมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากเท่านั้น และสิ่งที่ต้องเสียเงินซื้อจริงๆแล้วคุณค่าของมันสู้ของที่ได้มาฟรีไม่ได้” คุณคงจะพุดว่า บ้าไปแล้วมั้งของฟรีมันจะไปมาค่าได้ยังไง ไม่เช่นนั้นมันจะได้มาฟรีเหรอ
คำว่าฟรีหมายถึงได้มาเปล่าๆ ไม่ต้องเอาอะไรไปแลก ตรงนี้ทำให้เรามักจะมีความคิดที่ว่าอะไรที่เราได้มาฟรีๆมักจะมีค่าน้อย หรือไม่ก็ไร้ค่าไปเลย ในขณะเดียวกันสิ่งที่เราได้มาด้วยความยากลำบากหรือต้องเสียเงินเสียทอง เสี่ยงหรือเหน็ดเหนื่อยเพื่อแลกมันมา มันควรจะมีราคามีค่ามากกว่าไม่ใช่เหรอ
หากคิดกันให้ลึกๆแล้วสิ่งที่มันเป็นไปมันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง สิ่งที่มีค่าในชีวิตทุกๆอย่างเราล้วนได้มันมาฟรีทั้งนั้น ส่วนที่เราต้องเสียเงินเสียทองไปหาซื้อมันมาครอบครองมักจะเป็นสิ่งที่มีค่าต่ำ ถึงแม้จะจ่ายมันด้วยเงินมหาศาลเท่าไหร่ราคาของมันจริงๆยิ่งถูก
ลองคิดถึงสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราได้มาฟรีทั้งนั้น หลายๆอย่างมันเป็นของเราตั้งแต่เกิด หลายๆอย่างมันก็มีอยู่แล้วแทบไม่ต้องไปดิ้นรนไปแก่งแย่งเอามา เช่น จิตใจ จิตวิญาญ ร่างกายเรา ความหวัง ความรัก ความทะเยอทะยาน กำลังใจ ความเชื่อมั่น ความอดทน ศรัทธา มิตรภาพ ครอบครัว คนที่เรารัก พ่อแม่พี่น้อง ลูกหลาน เพื่อนฝูง อากาศ ประเทศ โลก ฯลฯ และที่สำคัญที่สุด คือ เวลา
ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะเป็นสิ่งที่เสียไปแล้วไม่มีทางเลยที่จะได้มันกลับคืนมา และเวลาเป็นสิ่งที่เราไม่เคยต้องเอาเงินทองไปแลกมันมา มันเป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเรามาตลอดแบบฟรีๆ แต่ตรงข้ามกันสิ่งที่เราต้องเอาอะไรที่เรามีโดยเฉพาะของฟรีที่กล่าวข้างต้นไปแลก มันมันกลับมีค่าน้อย
บางคนบอกว่าไม่จริงหรอก สิ่งใดจะมีค่าได้ต้องใช้หลายๆสิ่งเพื่อให้ผ่านการพิสูจน์ว่ามันค่าจริงๆ เช่น ความรักและมิตรภาพ นี่ไงกว่าจะได้มาต้องผ่านการพิสุจน์ ต้องผ่านการใช้เวลาและเสียสละหลายๆอย่าง
แต่ถ้าหากลองมองลึกๆ มิตรภาพเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลกนี้มาตลอดไม่ต้องไปดั้นด้นเสาะหาหรือลงทุนไขว่คว้ามันมา มันอยู่รอบตัวเราถึงแม้บางครั้งต้องใช้เวลาบ้าง แต่อย่างที่รู้แล้วเวลาเป็นของฟรีจึงไม่มีคำว่าเสีย หรือต้องแลกด้วยอะไร มีแค่จะรู้สึกมันหรือไม่เท่านั้นเอง หากไม่รู้สึกไม่ว่าจะทุ่มเทด้วยอะไรก็ตามหรือใช้เวลามากแค่ไหนก็ตามมันก็ไม่มีค่า
แล้วงานหละ? งานเป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าไม่มีงานก็ไม่มีเงิน ไม่มีเงินก็ไม่มีอะไรจะกิน ที่จะนอนจะอยู่ ยาจะรักษาโรค งานสร้างสรรค์สิ่งต่างๆให้กับโลก ทำงานหนักเพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีในบั้นปลาย ดังนั้นงานมีค่า
หากมองในเรื่องความสมดุลย์ของชีวิต งานเป็นสิ่งที่มีค่าน้อยที่สุดในบรรดากิจกรรมที่มนุษย์ทำอยู่ทุกวันนี้ ลองคิดให้ดีงานงานทำให้เรามีกิน แต่มันไม่เคยทำให้ชีวิตสมบูรณ์ ยิ่งแย่ไปกว่านั้นงานเป็นตัวฉุดรั้งความสมบูรณ์ของชีวิตแทนที่เราจะได้ใช้เวลากับคนที่เรารัก
ทำในสิ่งที่เราอยากทำเรากลับต้องมาใช้เวลา 1 ใน 3 ของวัน และ 5-6 ใน 7 วันเพื่อทำงาน ความเป็นจริงในโลกใบนี้ที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยคือ
คนที่มีความสุขที่สุด คนที่มั่งคั่งร่ำรวย คนที่มีชีวิตสมบูรณ์ เขาไม่ได้ใช้เวลาทำงาน แต่เขาทำในสิ่งที่เขารัก แต่เนื่องด้วยระบบสังคมของมนุษย์ถูกพัฒนาไปในแนวทางที่มีแต่ความขาดแคลนทำให้เราเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างไม่เต็มที่ เราจึงทำในสิ่งที่เราไม่ชอบเพื่อแลกกับเงิน สิ่งที่เราไม่ชอบนั้นก็คืองาน
แล้วเงินหละ? ในคตวรรษนี้ หรืออีกหลายๆศตวรรษในอนคตคงไม่มีใครปฏิเสธว่า เงิน ไม่มีความสำคัญ เงินเป็นเครื่องมือที่ทำให้กิจกรรมแทบจะทุกอย่างบนโลกนี้ดำเนินไป หากใครเถียงว่ามันไม่สำคัญต่อชีวิต เงินซื้อความสุขไม่ได้ คุณก็ควรเลิกคบคนนั้นไปเลย เพราะเงินสำคัญกับชีวิต เงินซื้อความสุขตรงๆไม่ได้ แต่ซื้ออิสรภาพ ซื้อเวลา ซื้อหนทางแก้ปัญหาที่กำลังเจอ เพื่อจะตัวเราจะได้มีความสุขในสิ่งที่เราต้องการ
แต่อย่างไรก็ตามการได้เงินมาแล้วนั้นเงินไม่มีค่าในตัวมันเอง มันจะมีค่ามีราคาก็ต่อเมื่อถูกนำมาใช้เท่านั้น ยิ่งมีค่ามากขึ้นไปอีกอยู่ที่ว่าเอาเงินไปทำอะไรเพิ่มความสุขหรือสร้างความทุกข์ เงินซื้อความสุขไม่ได้ก็จริงแต่เงินสามารถซื้ออิสรภาพ อิสรภาพที่ว่านั้นแหละเราสามารถนำมาใช้หาความมสุขได้
เงินเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง หากใช้เป็นก็จะสร้างประโยชน์และทำให้ชีวิตเรามี และได้รับความสุขมากมาย แต่นำไปใช้ในทางที่ผิดเงินก็จะนำไปสู่ความทุกข์ได้สุดๆเช่นกัน เงินไม่มีค่าในตัวมันเองแต่จะมีค่าก็ตอนนำมาใช้
แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่่มีค่ามากกว่าสิ่งใดๆเพราะมันเป็นแหล่งสร้างสินทรัพย์และประสบการณ์ในชีวิตของเรา เป็นสิ่งที่จะสร้างความร่ำรวยให้เราได้ สิ่งที่ว่าคือ “จิตใจ” (Mind)
และสิ่งนี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งทั้งปวงในจักรวาลนี้ Napolean Hill (นโปเลียน ฮิลล์) กล่าวไว้ว่าคนร่ำรวยพันล้านหมื่นล้านก็เริ่มมาจาก Mind นี่เอง วันหนึ่งหากคุณสูตรเสียทรัพย์สมบัติทั้งหมด คุณจะได้มันกลับคืนมาได้ทั้งหมดเช่นกันด้วยการใช้ Mind อย่างถูกวิธี
คนคนหนึ่งถึงแม้จะใช้ทั้งชีวิตทุ่มเทหาเงินมามากมายแล้วเอาแต่เก็บอย่างเดียว มีเงินเต็มบัญชีแต่ไม่เคยนำมาใช้เกิดประโยชน์ หรือนำมาซื้ออิสระเพื่อความสุขของตัวเอง เงินที่ว่าก็ก็ไม่มีค่าอะไร เงินจะมีค่าก็ต่อเมื่อนำไปใช้ทำในสิ่งที่เรามีความสุข และการจะได้เงินมานั้น ต้องมี จิต ที่พร้อมและ และที่สำคัญเรา “จิต” ของเรามาแบบฟรี ได้ แต่ถ้าขาดมันแล้วเราหาเงินไม่ได้
เอิร์ล ไนติงเกล (Earl Nightingale) กล่าวในเทป The Strangest Secret ว่าบุคคลๆหนึ่งสมบูรณ์มั่งคั่งอาจจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเป็นเข้าของ บ้าน ทรัพย์สมบัติโดนเผาวอดวาย สิ้นเนื้อประดาตัว เขาก็ยังจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เหมือนเดิมอีกครั้ง และสามารถทำแบบนี้ได้หลายๆครั้งในชีวิต แต่สิ่งที่เราได้มาฟรีๆนั้นเมื่อสูญเสียไปแล้วเราไม่สามารถเอาคืนมาได้ หรือหาอะไรทดแทนมันได้
วันนี้ของให้ทุกคนเริ่มต้นพัฒนาที่ “จิต” แล้วเงินจะตามมาในที่สุด