คุณอาจเคยอ่านหรือได้ยินเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆที่เกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่งและร่ำรวยมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาอิสรภาพทางการเงินของคุณ คุณอาจจะได้ยินได้ฟังมาซะจนเบื่อแล้วแต่เพื่อเป็นการย้ำให้เข้าใจอยู่เรื่อยๆเราจึงนำมาเสนอซ้ำๆอีก นี่คือความเชื่อที่พบบ่อยและทำลายล้างที่สุด
ความเชื่อที่ 1: รายได้ของคุณขึ้นอยู่กับความขยันของคุณ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คนงานใช้แรงงานที่ทำงานหนักมาหลายปี ก็คงจะเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกไปแล้ว แน่นอนว่านี่ไม่เป็นความจริงเลย พวกเขาเป็นส่วนใหญ่ของกำลังแรงงานและคนส่วนใหญ่ในชนชั้นกลาง
ถ้าคุณเคยเห็นพ่อแม่ของคุณกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวันในวัยเด็กของคุณ คุณอาจได้เรียนรู้ว่าเงินไม่ใช่รางวัลที่เพียงพอสำหรับความพยายามทั้งหมดนั้น
คนที่ทำงาน “เพื่อ” เงิน มักจะมีหนี้สิน เพราะพวกเขาปลอบใจตัวเองด้วยสิ่งของที่พวกเขาสามารถซื้อได้ สิ่งสวยงามที่พวกเขาขาดเมื่อทำงาน ดังนั้นความขยันไม่ได้ทำให้คุณรวย
ความเชื่อที่ 2: การได้รับเงินจากสิ่งที่คุณชอบไม่ใช่การทำงาน และคุณไม่ควรเรียกร้องเงินสำหรับสิ่งที่คุณชอบทำ
ลองตรวจสอบสิ่งนี้กับบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย พวกเขาทุกคนมีเงินมากจนไม่จำเป็นต้องทำงานอีกต่อไป อย่างไรก็ตามพวกเขาทำงานด้วยเหตุผลอื่น ๆ เช่น ความท้าทาย ความพึงพอใจ ความสมบูรณ์ของชีวิต กิจกรรม ความสนุก ความอยากสร้างคุณค่าให้ตัวเอง แก้เบื่อ ฯลฯ
และทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับความรักในงานของพวกเขา ถ้าไม่มีความสุขในการทำงานนั้น พวกเขาจะทำอย่างอื่นที่จะทำให้พวกเขามีความสุขมากขึ้นและทำให้พวกเขาสามารถบรรลุความฝันได้
ในความเป็นจริง ถ้าคุณไม่สนุกกับงานของคุณ คุณจะไม่มีวันร่ำรวยจากการทำมัน! อย่างไรก็ตาม เพียงเพราะคุณสนุกกับงานของคุณไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรรับเงินจากมัน
ในความเป็นจริง นั่นคือเป้าหมายสูงสุด ที่จะได้รับเงินจากสิ่งที่คุณสนุกอยู่แล้ว ดังนั้นมันจะไม่รู้สึกเหมือนคุณกำลังทำงาน! ดังนั้นสิ่งที่คุณทำแล้วมีความสุขก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าคุณจะได้เงินจากสิ่งนั้นมากมาก
ความเชื่อที่ 3: คุณต้องอยู่ในสายธุรกิจที่ถูกต้องเพื่อสร้างความมั่งคั่ง
คุณคิดอย่างนั้นหรือ? นี่ต้องหมายความว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจเดียวกันเป็นเศรษฐี แต่ในโลกความเป็นจริงมันไม่เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอนว่า มีเศรษฐีอยู่ในทุกสายธุรกิจ
ในแต่ละธุรกิจมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ผู้ชนะมีมากมาย แม้แต่ในธุรกิจที่ประกอบด้วยงานที่น่ารังเกียจ (สำหรับคนส่วนใหญ่) หรือดูแล้วเป็นไปไม่ได้ว่าจะรวยได้ เช่น ธุรกิจเก็บขยะ ธุรกิจดูดส้วม ทำงานในโรงงาน เติมน้ำมัน ขายหนังสือพิมพ์ ฯลฯ ก็ยังมีคนทำได้ร่ำรวย
ในทางกลับกัน มี “ผู้แพ้” มากมายในธุรกิจที่ร้อนแรงผลกำไรสูง แต่กลับไม่เป็นคนร่ำรวยก็มีมากมาย เช่น การขายอสังหาริมทรัพย์ การจัดการหรือการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นักลงทุนในตลาดหุ้น
ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไดก็ตามคุณก็สามารถร่ำรวยได้ถ้าคุณทำมันได้ถูกวิธี
ความเชื่อที่ 4: คุณต้องมีการศึกษาที่เหมาะสมสร้างฐานะของตัวเองได้
ข้อนี้ง่ายมาก และทุกวันนี้ผู้คนมากมายเริ่มจะเข้าใจแล้วว่า การศึกษาไม่มีผลต่อการเป็นสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย
ดูได้จากคนที่มีการศึกษาสูงสุดเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดจริงหรือ ก็ไม่เลย ถ้าเป็นจริงอาจารย์มหาวิทยาลัย หรือดอกเตอร์ทั่วโลกคงจะเป็นคนร่ำรวยที่สุดในโลกไปแล้ว
ลองถามพวกเขาเกี่ยวกับเงินเดือนของพวกเขาดู(ถ้าคุณมีโอกาส) คุณก็จะพบกับความจริงที่แตกต่างกันอย่างมาก ว่ารายได้ของอาจารย์มหาลัยและนักวิชาการต่างไม่ได้สูงเท่าไหร่เลย แต่ที่เขาทำเป็นเพราะเขาชอบและรักในสิ่งที่ทำมากกว่า
คนที่ร่ำรวยที่สุดคือคนที่สามารถแปลงความรู้ (หรือการศึกษา) ของพวกเขาเป็นเงิน ในวิธีที่ดีที่สุด พวกเขาสามารถเป็นทั้งคนที่มีการศึกษาสูง (เช่น นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ) หรือบางคนแทบจะไม่มีความรู้ทางวิชาการเลย (เช่นพ่อค้าแม่ค้า) แต่ก็รวยได้เหมือนกัน
การไม่ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการไม่ได้หมายความว่าจะทำงานได้ไม่ดี หรือไม่สามารถสร้างวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะนำพาคนไปสู่ความสำเร็จ พวกเขาสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องมีการศึกษาอย่างเป็นทางการ
ความเชื่อที่ 5: เมื่อก่อนมันเคยง่ายกว่านี้
สถิติแสดงให้เห็นว่าจำนวนเศรษฐีในโลกเพิ่มขึ้นทุกปี การพูดถึง “สมัยก่อนที่ดีกว่านี้” เป็นเพียงการปลอบใจและข้อแก้ตัวที่สะดวก ถ้าคุณมองไปรอบๆ คุณจะเห็นว่ามีคนที่ประพฤติตัวเหมือนกันใน “สมัยก่อนที่ดี” เหมือนที่พวกเขาทำตอนนี้
แต่ความสำเร็จของพวกเขาเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทำให้เกิดแนวคิด ความปรารถนา และความต้องการใหม่ ๆ และมีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้นปรากฏขึ้นทุกวันเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น
ความเชื่อที่ 6: ฉันแก่ (หรือเด็ก) เกินไป
ถ้าคุณค้นคว้าเรื่องราวชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบางคน คุณจะเห็นว่านี่ไม่เป็นความจริงเลย บางคนร่ำรวยตั้งแต่ช่วงต้นชีวิต (อาจจะจากตลาดหุ้น หรือเงินคริปโต)
ในขณะที่คนอื่น ๆ พบโชคลาภในวัยชรา ตัวอย่างเช่น เรย์ คร็อค (Ray Kroc) อายุมากกว่าห้าสิบปีเมื่อเขาซื้อและสร้างแมคโดนัลด์แห่งแรก หรือ ผู้พันแซนเดอส์ (Colonel Harland David Sanders) ที่เริ่มต้นขายสูตรไก่ทอดตอนอายุ 65 และเป็นเศรษฐีพันล้านตอนอายุ 85
ความเชื่อที่ 7: คุณต้องใช้เงินเพื่อสร้างเงิน
นี่ก็ไม่ต่างจากข้อแก้ตัวหรือ “ความเชื่อผิด ๆ” อื่น ๆ เช่นเดียวกับข้ออื่น ๆ เห็นได้ชัดว่าข้อนี้ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน หลายคนสร้างโชคลาภของพวกเขาจากการเริ่มต้นจากศูนย์
บางคนอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เก่าหรือทำงานจากโรงรถของพวกเขา หรือแม้แต่บางคนเป็นคนไร้บ้าน แต่พวกเขาก็พัฒนาอาณาจักรธุรกิจที่มีมูลค่าหลายพันหลายหมื่นล้านในปัจจุบัน
มีองค์ประกอบอื่นๆของความสำเร็จมีความสำคัญมากกว่าการมีเงินทุนเริ่มต้นธุรกิจ บ่อยครั้งที่เงินช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตและไปข้างหน้าได้เร็วแต่มันไม่ได้หมายถึงการขาดเงินแล้วจะสร้างธุรกิจหรือกิจการอะไรไม่ได้เลย คุณยังมีช่องทางอื่นๆที่สามารถทำได้เช่นกู้ หาหุ้นส่วน นำโครงการไปเสนอนักลงทุน หรือเริ่มต้นเล็กๆสร้างคุณภาพให้เห็นเป็นประจักษ์ก่อนแล้วเงินจะตามมา
ความเชื่อที่ 8: ฉันจะเริ่มเมื่อฉันรู้ทุกอย่างแล้ว
คุณเชื่อว่าสักวันหนึ่งคุณจะรู้ทุกอย่างหรือไม่? หรือแม้แต่ว่าคุณจะรู้เพียงพอที่จะ “เตรียมพร้อมอย่างแท้จริงในตอนนี้” หรือไม่? ยิ่งคุณเรียนรู้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเห็นว่าคุณยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก
ความสำเร็จและการได้รับความมั่งคั่งเป็นกระบวนการที่ไม่หยุดนิ่ง แม้ว่าคุณสามารถเริ่มต้นด้วยการรู้ทุกสิ่งที่มีอยู่ องค์ประกอบบางอย่างเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงทันทีและหลายอย่างจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณไม่ตัดสินใจตอนนี้ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใช้ชีวิตและเรียนรู้
เศรษฐีบางคนถึงกับยอมล้มละลาย แล้วสร้างความมั่งคั่งของพวกเขาขึ้นมาใหม่ บางครั้งก็ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่นโดนัล ทรัมป์ เงินเองไม่ใช่อุปสรรคที่ขัดขวางคุณจากการเป็นคนร่ำรวย
ฝึกการลงมือทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้สถานที่ทำงานของคุณดีขึ้นหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าคนอื่นจะเป็นคนเซ็นเช็คเงินเดือนของคุณ คุณก็ทำงานเพื่อตัวคุณเอง แม้ว่าคุณจะเป็นพนักงานในบริษัทขนาดใหญ่มันไม่ใช่บริษัทของคุณ แต่มันเป็นบริษัทเดียวที่คุณสามารถพิสูจน์สิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้
เราทุกคนมีสิ่งที่จำเป็นในการเป็นเศรษฐี! เกิดมาเป็นผู้ชนะ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้วิธีใช้ประโยชน์และปลูกฝังความเป็นไปได้ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเราเอง! ไม่มีใครสามารถมอบศักยภาพให้คุณมากกว่าที่หัวใจของคุณมีอยู่แล้ว
คุณเพียงแค่ต้องค้นพบสิ่งที่อยู่ในนั้นเพื่อค้นหาเส้นทางที่แท้จริงสู่ความสำเร็จในชีวิตของคุณ เกิดมาพร้อมกับเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จ การตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต้องมาจากภายในเสมอ! คุณจะค้นพบแหล่งโชคลาภใหม่ที่ลึกซึ้ง – ตัวคุณเอง!