อยากให้คุณลองจินตนาการสักครู่ ว่าจะเป็นอย่างไรถ้าว่าจิตใจของคุณกุมกุญแจที่จะพลิกผันชีวิตของคุณได้
และจะเป็นอย่างไร หากเราจะบอกคุณว่าความมั่งคั่งที่คุณไขว่คว้านั้น มิได้อยู่ภายนอกตัวคุณ หากแต่ซ่อนอยู่ในห้วงลึกแห่งจิตสำนึก?
โจเซฟ เมอร์ฟี นักเขียนและนักคิดผู้มีชื่อเสียง ได้นำเสนอแนวคิดที่สามารถเปลี่ยนทิศทางแห่งโชคชะตาของคุณได้ เขากล่าวถึงการ “เปลี่ยนน้ำเป็นไวน์” ซึ่งฟังดูลึกลับ ทว่าแฝงไว้ด้วยความหมายที่จะปฏิวัติวิธีที่คุณมองหาความสำเร็จ ความอุดมสมบูรณ์ และชัยชนะในชีวิต
จริงๆก็ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นไวน์จริงๆหรือก แต่เป็นการอุปมาอุปไมยให้เห็นภาพชัดเจนมากกว่า
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักโจเซฟ เมอร์ฟี (Joseph Murphy) กันสักหน่อยดีกว่า เขาผู้ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน เขาคือผู้บุกเบิกในด้านพลังแห่งจิตใจและจิตใต้สำนึก
โจเซฟ เมอร์ฟี เป็นนักเขียนและนักเทศน์ชาวไอริช-อเมริกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านปรัชญาความคิดใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2441 ในเมืองบัลลีดีโฮบ ประเทศไอร์แลนด์
เขาได้รับการศึกษาในด้านศาสนาและปรัชญา ต่อมาเขาอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาและเริ่มทำงานเป็นนักเทศน์ในโบสถ์ในลอสแองเจลิส เมอร์ฟีเริ่มสนใจในพลังของจิตใต้สำนึกและเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาคือ “พลังจิตใต้สำนึก” ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2488 หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเกี่ยวกับปรัชญาความคิดใหม่
คำสอนของเขาส่งผลอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนที่ค้นหาหนทางปลดปล่อยศักยภาพภายใน เพื่อให้ปรากฏผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในชีวิต ภูมิปัญญาของเมอร์ฟีไม่ได้หยั่งรากจากความคิดเพ้อฝัน หากแต่เขาเน้นย้ำถึงการนำกฎทางจิตวิญญาณและพลังจิตไปประยุกต์ใช้จริง กฎเหล่านี้ที่ค้ำจุนความเป็นจริงของเราอยู่
ก็จบไปแล้วสำหรับประวัติของ โจเซฟ เมอร์ฟี ถึงเวลาแล้วที่เราจะดำดิ่งสู่แก่นแท้ของแนวคิด “เปลี่ยนน้ำเป็นไวน์” ว่ามันคืออะไรกันแน่
ลองจินตนาการว่าจิตใจของคุณเปรียบเสมือนภาชนะหนึ่ง เหมือนกับน้ำในแก้ว ในอุปมานี้ น้ำเปรียบได้กับจิตสำนึกของคุณ ที่ลื่นไหล ปรับตัวได้และเปลี่ยนรูปร่างไปตามภาชนะที่บรรจุมันไว้
ความคิด (Thought) ความเชื่อ (Belief) และความรู้สึก (Feeling) ของคุณหล่อหลอมความเป็นจริงให้เป็นไปในทำนองเดียวกัน เหมือนกับน้ำที่เปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะที่มันอยู่ จิตสำนึกของคุณก่อให้เกิดผลลัพธ์ต่าง ๆ ตามความคิดที่คุณยึดถือไว้นั่นเอง
ถ้าอย่างนั้น ‘ไวน์’ จะมีความหมายอย่างไร?
ไวน์ คือการตระหนักรู้ถึงความปรารถนา ความฝัน และแผนการของคุณ มันคือรูปกายที่แสดงความทะเยอทะยานในโลกแห่งวัตถุ แนวคิดนี้ดึงแรงบันดาลใจจากเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล
และในกรณีนี้ เรื่องการเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนสภาวะจิตใจของคุณ (น้ำ) ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ (ไวน์)
ลองคิดตามนี้ เมื่อคุณมุ่งเน้นไปที่ความเชื่อเชิงลบ (Negative Thought) ความสงสัย (Doubt) และความกลัว (Fear) นั่นก็เหมือนกับคุณกำลังเทน้ำขุ่นลงในแก้วแห่งจิตใจของคุณ
และเช่นเดียวกับที่น้ำเปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะที่มันอยู่ ความจริงของคุณก็ปรับตัวตามความเชื่อเชิงลบเหล่านั้น ดึงดูดสิ่งที่คุณกลัวหรือสงสัยเข้ามามากขึ้น มันเหมือนกับการสร้างคำทำนายที่ทำให้ตัวมันเองเป็นจริง นั่นคือความล้มเหลวหรือการขาดแคลน
แต่ว่าความมหัศจรรย์อยู่ที่ ‘ความสามารถของคุณในการเปลี่ยนน้ำให้เป็นไวน์’ นี่แหละ
เมื่อคุณเปลี่ยนจุดโฟกัสทางจิตใจไปที่ความคิดเชิงบวก (Positive Thought) ความเชื่อที่เสริมสร้างพลัง (Belief) และศรัทธาอันแน่วแน่ (Faith) นั่นก็เหมือนกับการเทน้ำใสสะอาดลงในแก้วแห่งจิตใจ
ความจริงของคุณจะเริ่มเปลี่ยนรูปร่างตามความเชื่อที่เติมพลังเหล่านี้ และค่อย ๆ ทำให้ความปรารถนาและความฝันของคุณจับต้องได้ดั่งการเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์
ตัวอย่างที่น่าสนใจจากหนังสือของเมอร์ฟี่ คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เขารู้จักในนิวยอร์ก ระหว่างวิกฤตเศรษฐกิจในปี 1929 เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ความคิดของเขายังคงมั่นคงไม่สั่นคลอน นี่คือสิ่งที่เขาพูดว่า:
‘ผมสูญเสียทุกอย่าง ผมเคยสร้างรายได้เป็นล้านดอลลาร์ภายในสี่ปี ผมจะทำมันได้อีกครั้ง สิ่งที่ผมสูญเสียไปเป็นเพียงสัญลักษณ์ ผมสามารถดึงดูดสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งกลับมาได้อีกครั้ง เหมือนกับที่น้ำผึ้งดึงดูดแมลงวัน‘
เขารู้ว่าความมั่งคั่งของเขาไม่ได้ผูกติดกับสัญลักษณ์ภายนอก แต่มันเป็นผลลัพธ์ของความสามารถทางความคิด ความรู้ และการมีส่วนร่วมเชิงบวกต่อผู้อื่น
เขาเข้าใจถึงแก่นแท้ของ “การเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์” การยืนยันถึงการดึงดูดความมั่งคั่งของเขาก็คล้ายกับการเปลี่ยนจิตสำนึก (น้ำ) ของเขาให้กลายเป็นผลลัพธ์อันรุ่งเรือง (ไวน์)
ในช่วงเวลาที่เผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน ชายที่เราพูดถึงก่อนหน้านี้ มักจะพูดกับตัวเองซ้ำๆ ในวันที่เขาขาดแคลนเงินว่า “ฉันเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ได้” สำหรับเขาแล้ว คำเหล่านี้มีความหมายว่า “ฉันสามารถเปลี่ยนแนวคิดความยากจนในจิตใจของฉันให้เป็นความคิดที่มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ให้สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบันของฉัน นั่นคือความมั่งคั่งและการเงินที่เหลือเฟือ”
ชายผู้นี้เริ่มต้นทำงานเป็นพนักงานขายให้กับองค์กรเคมีภัณฑ์หนึ่ง และไม่นานเขาก็ได้เป็นรองประธานบริษัท ภายใน 4 ปี บริษัทเลื่อนตำแหน่งให้เขากลายเป็นประธานบริษัท ทัศนคติทางจิตใจที่มั่นคงของเขาคือ “ฉันเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ได้
เอเมอร์สัน (Ralph Waldo Emerson) เคยกล่าวไว้ว่า ‘มนุษย์เป็นสิ่งที่เขาคิดตลอดทั้งวัน’ การคิดซ้ำๆ ถึงความคิดเดิม จะทำให้เกิดทัศนคติและความเชื่อที่ชัดเจนในจิตใต้สำนึกของคุณ
จากนั้นความเชื่อและทัศนคติเหล่านั้นจะชี้นำและควบคุมการกระทำภายนอกทั้งหมดของคุณ การเข้าใจแนวคิดนี้และเริ่มนำมาใช้ คือขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนน้ำให้เป็นไวน์ หรือเปลี่ยนความขาดแคลนและข้อจำกัด ให้กลายเป็นความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่ง
เรามาแยกย่อยขั้นตอนเพื่อใช้สูตรมหัศจรรย์นี้กันดีกว่า
1) กำหนดความปรารถนาอย่างชัดเจน เหมือนกับที่จิตรกรต้องการภาพในใจที่แจ่มชัดถึงสิ่งที่จะรังสรรค์ คุณเองก็ต้องการความเข้าใจที่ชัดเจนถึงเป้าหมายและความปรารถนาของคุณ กำหนดสิ่งเหล่านี้ด้วยความแม่นยำ ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงที่คุณอยากได้คืออะไร? ภาพในใจของคุณยิ่งมีรายละเอียดและสดใสเท่าไหร่ ก็ยิ่งเติมพลังให้กับกระบวนการเนรมิตสิ่งที่คุณต้องการได้มากเท่านั้น
2) เปลี่ยนน้ำ (จิตใจ) ให้เป็นไวน์ (ความปรารถนา) จิตใจของคุณเปรียบได้กับน้ำที่ปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ มันจะกลายสภาพตามภาชนะ (ความเชื่อ) ที่คุณเทมันลงไป คุณต้องเปลี่ยนความเชื่อหรือความสงสัยเชิงลบใด ๆ ให้กลายเป็นความคิดเสริมพลังเชิงบวก ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งเป้าหมายความสำเร็จทางการเงิน ให้เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ฉันไม่สามารถจ่ายเพื่อสิ่งนั้นได้” เป็น “ฉันดึงดูดความมั่งคั่งได้อย่างง่ายดาย”
3) บ่มเพาะศรัทธาและความเชื่อมั่น ลองนึกภาพว่าคุณกำลังปลูกเมล็ดพืชลงในดินแห่งจิตใจของคุณ ความคิดและความรู้สึกของคุณเปรียบเหมือนสารอาหารที่กำหนดการเติบโตของเมล็ดเหล่านั้น ถ้าคุณรดน้ำเมล็ดเหล่านี้ด้วยความสงสัยและความคลางแคลง มันก็จะเหี่ยวเฉา แต่ถ้าคุณหลั่งรดด้วยศรัทธาและความมั่นใจอันแน่วแน่ เมล็ดเหล่านั้นก็จะแตกหน่อเป็นต้นไม้แห่งความสำเร็จที่งดงาม
4) ยึดมั่นในความเพียร กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว และความฝันก็ไม่ได้ปรากฏเป็นจริงชั่วข้ามคืนเช่นกัน จงยืนยันความเชื่อเชิงบวกของคุณ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทาย เหมือนกับที่ช่างแกะสลักค่อย ๆ สกัดหินจนกลายเป็นผลงานชิ้นเอก ค่อย ๆ สกัดความสงสัยในตนเองและความกลัวออกไป จนกว่าจะหล่อหลอมรูปปั้นแห่งความสำเร็จของคุณได้สำเร็จ
5) ขจัดอิทธิพลด้านลบ เหมือนกับที่ชาวสวนผู้ชำนาญจะถอนวัชพืชที่คุกคามการเติบโตของต้นไม้ คุณเองก็ต้องกำจัดอิทธิพลด้านลบที่ขัดขวางพัฒนาการของคุณเช่นกัน คนคิดลบ ความเชื่อที่จำกัดตัวเอง หรือแม้แต่ข่าวสารร้าย ๆ สามารถเป็นพิษต่อสวนทางความคิดของคุณได้ จงดูแลรักษาสถานที่แห่งความคิดเชิงบวกเอาไว้อย่างดี
6) การสร้างภาพในใจ คือจานสีสำหรับศิลปะของคุณ หลับตาลงและมองเห็นตัวเองกำลังใช้ชีวิตอยู่ในความเป็นจริงที่คุณปรารถนาอย่างแจ่มชัด ใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของคุณให้ครบถ้วน สัมผัสพื้นผิว ได้ยินเสียงต่าง ๆ และดื่มด่ำกับอารมณ์ความสำเร็จ การสร้างภาพในใจจะเสริมสร้างความเชื่อของคุณในความสามารถที่จะเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นไวน์
7) ความสำนึกบุญคุณและความเชื่อมั่น ความสำนึกคุณเสมือนแสงแดดที่บำรุงเลี้ยงสวนทางความคิดของคุณ เมื่อคุณแสดงความขอบคุณต่อสิ่งที่คุณมี มันก็เหมือนกับการส่งสัญญาณอันทรงพลังไปยังจิตใต้สำนึกว่าคุณพร้อมที่จะรับสิ่งดี ๆ มากกว่านี้ จงเชื่อมั่นในกระบวนการต่าง ๆ เหมือนกับที่องุ่นต้องการเวลาในการหมักเพื่อเปลี่ยนเป็นไวน์ ความปรารถนาของคุณต้องการเวลาในการปรากฎเป็นจริงเช่นกัน
8) ยืนยันด้วยศรัทธา คำยืนยันคือบทสวดมนต์ที่เติมพลังให้ความฝันของคุณ เปล่งประโยคเชิงบวกซ้ำ ๆ เช่น “ฉันมีคุณค่าคู่ควรกับความสำเร็จ”, “ความมั่งคั่งไหลเวียนมาหาฉันได้อย่างง่ายดาย” และ “ฉันมีความสามารถที่จะบรรลุความยิ่งใหญ่” การยืนยันอย่างต่อเนื่องจะเป็นการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างความเป็นจริงในปัจจุบันของคุณกับผลลัพธ์ที่คุณปรารถนา
10) ความสม่ำเสมอ จงมองว่าความพยายามของคุณคือการป้ายฝีแปรงบนผืนผ้าใบของคุณเอง ความสม่ำเสมอในการทุ่มเทแต่ละครั้ง จะเพิ่มมิติและรายละเอียดให้กับงานชิ้นเอกของคุณ ความสม่ำเสมอนี่เองที่จะเป็นเส้นใยถักทอความฝันของคุณเข้าไปในผืนผ้าแห่งชีวิต
11) บ่มเพาะอารมณ์เชิงบวก อารมณ์เปรียบเหมือนสีที่คุณใช้ในการวาดภาพบนผืนผ้าใบ อารมณ์เชิงบวกอย่างเช่น ความสุข ความตื่นเต้น และความรัก จะช่วยเร่งกระบวนการเนรมิตสิ่งต่าง ๆ เมื่อคุณรู้สึกราวกับว่าความปรารถนาของคุณได้เป็นจริงไปแล้ว นั่นจะยิ่งเสริมสร้างพลังดึงดูดให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงได้เร็วขึ้น
คุณคือผู้ที่กำลังวาดภาพด้วยสีสันสดใส เพื่อเติมชีวิตชีวาให้กับงานชิ้นเอกของคุณ หากคุณใช้สูตรนี้อย่างจริงใจ กับความซื่อสัตย์แท้จริง คุณก็จะได้รับรางวัลอย่างมากมายในโลกแห่งความเป็นจริงภายนอก
ในเรื่องราวของโจเซฟ เมอร์ฟี่ เรื่อง ‘ชายผู้เปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ได้สำเร็จ’ เขาไม่ได้ปล่อยให้สถานการณ์ภายนอกมาจำกัดความตัวตนของเขา แทนที่จะยอมแพ้ให้กับวิกฤตทางการเงิน เขาเลือกเสริมพลังให้กับตัวเองด้วยวิธีคิดแบบเปลี่ยนแปลง เขาแทนที่ความคิดแห่งความขาดแคลนด้วยความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ในความสามารถที่จะดึงดูดความมั่งคั่งของเขา การเปลี่ยนแปลงทางจิตสำนึกนี้ผลักดันให้เขาลงมือทำสิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจ และนำเขาไปสู่ความสำเร็จทางการเงิน
จงจำไว้ว่า นี่ไม่ใช่แค่การคิดหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของคุณ เพื่อกำหนดรูปร่างของความเป็นจริง เหมือนกับที่เชฟผู้ชำนาญผสมผสานส่วนผสมต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอก คุณก็กำลังผสมผสานความคิด ความเชื่อ อารมณ์ และการกระทำของคุณเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างชีวิตที่คุณปรารถนา คุณกุมอำนาจในการกำหนดชะตากรรมของคุณ ผ่านความคิด ความเชื่อ และการกระทำ
แนวคิด ‘เปลี่ยนน้ำเป็นไวน์’ คือ กุญแจแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่จะช่วยปลดล็อกประตูสู่ความอุดมสมบูรณ์ ความสำเร็จ และการเติมเต็มชีวิตของคุณ ในขณะที่คุณเทน้ำใสสะอาดแห่งความคิดเชิงบวก ลงในแก้วแห่งจิตสำนึกของคุณ จงเฝ้ามองด้วยความตื่นตาตื่นใจว่ามันจะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นไวน์อันหอมหวานแห่งความปรารถนาได้อย่างไร
ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนความเชื่อ และเปลี่ยนชีวิตของคุณ คุณพร้อมจะรับความท้าทายนี้แล้วหรือยัง? คุณพร้อมจะเริ่มต้นการเดินทางอันน่าตื่นเต้นสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หรือเปล่า?
อย่าลืมว่า พลังนั้นอยู่ภายในตัวคุณ การเลือกอยู่ที่คุณ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเปลี่ยนน้ำ ให้กลายเป็นไวน์