บอกตัวเองซ้ำๆย้ำว่า “ฉันรวย”: วิธีเปลี่ยนความคิดให้รวยขึ้นมาจริงๆ

หากเปรียบกับแม่เหล็กที่ดึงดูดเหล็กเข้ามาหาตัวได้ คุณเองก็สามารถดึงดูดความมั่งคั่งเข้ามาในชีวิตได้ด้วยพลังแห่งการยืนยันเชิงบวก เตรียมตัวพบกับวิธีการสร้างแรงดึงดูดทางการเงินด้วยมนตราแห่งความร่ำรวยจากจักรวาล

ลองนึกภาพตัวคุณกำลังปรับสวิตช์ความคิดเพื่อดึงดูดความอุดมสมบูรณ์อย่างง่ายดาย แต่คุณอาจสงสัยว่าจะทำอย่างไร? อะไรคือเคล็ดลับสู่แรงดึงดูดอันทรงพลังนี้?

“ฉันร่ำรวย” คือคำยืนยันแห่งพลังที่ย้ำเตือนถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของความมั่งคั่งที่จะเปลี่ยนโชคชะตาทางการเงินของคุณ

เนื้อหาโพสต์นี้ของ เว็บเศรษฐี sedtee.com เจาะลึกไปไกลกว่าขอบเขตดั้งเดิมของการเงินส่วนบุคคลและการบริหารความมั่งคั่ง ไปสู่มิติทางจิตวิทยาและพลังงานอันลึกซึ้งในการสร้างความมั่งคั่ง ด้วยการสำรวจอย่างละเอียดถึงวิธีที่ความคิดและคำพูดของคุณหล่อหลอมความจริงทางการเงินของคุณ

เรานำเสนอแนวทางอันแหวกแนวเพื่อให้บรรลุความมั่งคั่งผ่านการใช้ประโยชน์จากพลังแห่งการยืนยันเชิงบวกด้านความร่ำรวย

ด้วยการวางโครงสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ละบทในโพสต์ได้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อนำทางผู้อ่านผ่านกระบวนการสร้างความคิดที่มั่งคั่ง ตั้งแต่การทำความเข้าใจพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังการยืนยันเชิงบวก ไปจนถึงการเรียนรู้วิธีสร้างและใช้คำยืนยันทรงพลังด้านความมั่งคั่ง

เนื้อหานี้จะมอบเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบความคิดของคุณไปสู่อุดมคติแห่งความร่ำรวย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำอย่างสม่ำเสมอ ความเชื่อมั่น และการจัดระเบียบทางอารมณ์ พร้อมเผยให้เห็นว่าองค์ประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อทำให้ความสำเร็จทางการเงินเกิดขึ้นจริงได้อย่างไร

“ฉันร่ำรวย” เต็มไปด้วยคำยืนยันเชิงบวก หรือบอกตัวเองซ้ำๆย้ำๆ (Auto Suggestion) ที่ผู้อ่านสามารถเริ่มใช้ได้ทันทีเพื่อเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของตนเองที่มีต่อเงินตรา

เนื้อหานี้จะท้าทายผู้อ่านให้เผชิญหน้าและทำลายความเชื่อที่จำกัดพวกเขาเกี่ยวกับความมั่งคั่ง พร้อมยื่นเส้นทางเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดแบบขาดแคลนให้กลายเป็นความคิดมั่งคั่งร่ำรวย

นอกจากจะสอนวิธีใช้การบอกซ้ำๆย้ำๆตัวเองแล้ว เนื้อหานี้ยังเจาะลึกถึงหลักการแห่งความร่ำรวยอีกด้วย โดยกระตุ้นให้ผู้อ่านขยายมุมมองของพวกเขาที่มีต่อความมั่งคั่งให้กว้างขึ้นกว่าแค่การสะสมเงินตรา แต่ครอบคลุมไปถึงประสบการณ์ชีวิตที่สมบูรณ์และเติมเต็มยิ่งขึ้น

เนื้อหานี้เปรียบเสมือนแสงนำทางและเครื่องมือที่จะช่วยเสริมพลังให้กับทุกคนที่เคยต่อสู้กับข้อจำกัดทางการเงิน ไม่ใช่แค่คนที่อยากเปลี่ยนสถานการณ์ทางการเงินเท่านั้น แต่รวมถึงคนที่ต้องการจะเปลี่ยนความเชื่อและความคิดที่เป็นตัวกำหนดสถานการณ์เหล่านั้นด้วย

เนื้อหา “บอกตัวเองซ้ำๆย้ำๆว่าฉันรวย” คือคำเชิญชวนอันลึกซึ้งที่จะพาคุณออกเดินทางสู่เส้นทางการเปลี่ยนแปลงด้านการเงิน โดยมีคำยืนยันเชิงบวกเป็นกุญแจไขไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ อิสรภาพ และความมั่งคั่งในทุกแง่มุม

อยู่ด้วยกันจนจบ แล้วเรามาออกเดินทางอันน่าตื่นเต้นไปสู่เส้นทางอิสรภาพทางการเงินและการดึงดูดความมั่งคั่งกันครับ

บทที่ 1: ตัวอย่างคำ บอกซ้ำๆย้ำๆ ยืนยันเชิงบวกด้านการเงิน

คุณจะพบกับคำยืนยันเชิงบวกด้านการเงินมากมายในโลกนี้ แต่เราลองมาเจาะลึกบางประโยคที่ทรงพลังที่สุด ซึ่งสามารถเปลี่ยนความคิดของคุณไปสู่ความมั่งคั่งได้อย่างแท้จริง

คำยืนยันเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงวาทกรรมเลื่อนลอยหรือการคิดเข้าข้างตัวเอง แต่เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยาอันทรงพลวัตที่จะปรับเปลี่ยนมุมมอง และเปิดใจคุณไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่รายล้อม

ตัวอย่างแรก พูดว่า “ฉันเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงินตรา และเงินทองก็ไหลมาหาฉัน” คำยืนยันนี้สร้างความเชื่อว่าตัวคุณมีเสน่ห์ต่อความมั่งคั่งอยู่ในตัว มันไม่ได้หมายถึงความละโมบหรือวัตถุนิยม แต่เป็นการยอมรับคุณค่าในตัวคุณและมูลค่าที่คุณส่งออกไป ซึ่งจะดึงดูดความร่ำรวยเข้าหาคุณอย่างเป็นธรรมชาติ

ตัวอย่างต่อมา พูดว่า “เงินไหลมาหาฉันได้ง่ายดายและมากมาย” คำยืนยันนี้จะสลายความคิดที่ว่าการทำเงินต้องยากลำบากหรือต้องผ่านความเหนื่อยยาก แต่มันส่งเสริมแนวคิดของการไหลลื่นอย่างไร้แรงเสียดทาน ชี้ให้เห็นว่าเงินตราสามารถเข้ามาในชีวิตคุณได้อย่างง่ายดายและเปี่ยมล้น

อีกประโยคหนึ่งคือ “ฉันมีอิสรภาพทางการเงิน” นี่คืออะไรที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่ปรารถนาความมั่งคั่ง มันเป็นการประกาศถึงอิสรภาพและเสรีภาพทางการเงินของคุณ และเป็นการยืนยันความสามารถในการเลือกเส้นทางและดำเนินชีวิตตามแบบของคุณเอง โดยปราศจากพันธนาการทางการเงิน

และตัวอย่างสุดท้าย ที่มีพลังมาก “ฉันสำนึกในบุญคุณที่มีต่อความมั่งคั่ง และกระตือรือร้นที่จะต้อนรับความอุดมสมบูรณ์ที่จะเข้ามา” คำยืนยันนี้ปลูกฝังทัศนคติแห่งความขอบคุณสิ่งที่มีอยู่แล้ว พร้อมๆ กับการเปิดใจรับสิ่งที่จะตามมาในอนาคต เป็นความสมดุลระหว่างความพึงพอใจและความมุ่งมั่นที่จะทำให้คุณรู้สึกมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยความหวัง

บทที่ 2: กำหนดเป้าหมายด้านการเงินของคุณให้ชัดเจน

ทุกการเดินทางที่ประสบความสำเร็จสู่ความมั่งคั่งเริ่มต้นด้วยการตั้งเจตนาที่ชัดเจนและมีโฟกัส ซึ่งก็คือการมีเป้าหมายที่ชัดเจนนั่นเอง และการเดินทางของคุณก็เช่นกัน คุณต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าคุณต้องการบรรลุอะไรในด้านการเงิน

และเหตุใดสิ่งนั้นจึงสำคัญต่อตัวคุณถือเป็นสิ่งจำเป็น การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน การเป็นเจ้าของบ้าน หรือการเริ่มต้นธุรกิจ จะทำให้คุณมีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง

แต่การตั้งเจตนาความร่ำรวยไม่ใช่แค่การมีเป้าหมาย แต่หมายถึงการทำให้เป้าหมายนั้นสอดคล้องกับคุณค่าของตัวเอง ความหลงใหล และจุดมุ่งหมายในชีวิตของคุณด้วย

เป็นการให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าคุณจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ความมั่งคั่งนี้ปรากฏชัดในชีวิต นี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังจักรวาลว่าคุณพร้อมแล้วและเปิดใจที่จะรับความมั่งคั่ง

เริ่มต้นด้วยการเขียนเจตนาความมั่งคั่งของคุณลงไปในกระดาษ สมุดโน๊ต หรือแลปท๊อปของคุณ เขียนให้มีความเฉพาะเจาะจงและอิงกับความเป็นจริง แต่ก็อย่ากลัวที่จะฝันใหญ่

ลองนึกภาพว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร เมื่อบรรลุเจตนารเหล่านั้น รู้สึกถึงอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์นี้ ไม่ว่าจะเป็นความสุขจากอิสรภาพทางการเงิน ความภูมิใจในการเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือความมั่นคงจากการเป็นเจ้าของบ้าน

บทที่ 3: เปลี่ยน Mind Set และเปิดใจรับความคิดที่ว่าทุกอย่างมีเพียงพอสำหรับทุกคน

หลังจากที่คุณตั้งเจตนาความมั่งคั่งของคุณไว้แล้ว สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนมุมมองของคุณไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ แล้วมันหมายความว่าอะไร?

มุมมองแห่งความอุดมสมบูรณ์ กล่าวอย่างง่ายคือ ความเชื่อที่ว่ามีทรัพยากรมากพอสำหรับทุกคน มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับมุมมองแห่งความขาดแคลน ซึ่งมองชีวิตเป็นเกมที่ผลรวมเป็นศูนย์ ที่การได้ของคนหนึ่งย่อมหมายถึงการสูญเสียของอีกคน

การเปิดรับมุมมองแห่งความอุดมสมบูรณ์ไม่ได้เกี่ยวกับแค่การคิดบวกเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการเชื่ออย่างแท้จริงในคุณค่าของตัวคุณเอง และโอกาสอันไร้ขีดจำกัดที่จักรวาลมีไว้รอคุณอยู่

เริ่มต้นด้วยการรับรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง ไม่ใช่แค่ด้านการเงิน แต่ยังรวมถึงพรสวรรค์ ความสามารถ และการมีส่วนร่วมด้วย จงจำไว้ว่า คุณมีความสามารถมากกว่าเพียงพอในการดึงดูดความมั่งคั่งและความสำเร็จ

จากนั้น พยายามบ่มเพาะความรู้สึกขอบคุณ เมื่อคุณสำนึกในบุญคุณที่มีต่อสิ่งต่างๆ ในชีวิต นั่นหมายความว่าคุณกำลังส่งคลื่นบวกออกไปยังจักรวาล เพื่อเชิญชวนให้ความสมบูรณ์เข้ามาในชีวิตให้มากขึ้น

อย่าเพ่งความสนใจอยู่แค่ทรัพย์สินทางกายภาพ แต่จงซาบซึ้งใจต่อสุขภาพ ความสัมพันธ์ และโอกาสของคุณ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นรูปแบบของความมั่งคั่งด้วยเช่นกัน

บทที่ 4: เชื่อมโยงตัวเองกับพลังงานของจักรวาล (Universal Energy)

หลังจากสลัดความเชื่อที่คอยจำกัดเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง และเปิดรับมุมมองแห่งความอุดมสมบูรณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเชื่อมต่อกับพลังงานสากล หรือพลังงานจักรวาล (Universal Energy) อันเป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งและความรุ่งเรือง

จักรวาลนี้เปี่ยมไปด้วยพลังงานเชิงบวก ซึ่งเป็นแหล่งที่ไร้ขอบเขต สามารถขับเคลื่อนความฝันสู่ความสำเร็จทางการเงินของคุณได้ แต่คุณจะเชื่อมต่อกับพลังงานสากลนี้อย่างไร?

ขั้นตอนแรกคือการตระหนักว่า คุณเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานนี้อยู่แล้ว คุณไม่ได้แยกขาดออกจากมัน พลังงานนี้สถิตอยู่ข้างในตัวคุณ และซึมซับอยู่ในทุกสิ่งรอบตัวคุณ ถือเป็นพลังงานเดียวกันกับที่แสดงออกซึ่งความอุดมสมบูรณ์และความรุ่งเรืองในโลกใบนี้ การยอมรับในข้อนี้แสดงว่าคุณเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว

ขั้นต่อไป คุณจำเป็นต้องจัดวางตัวเองให้สอดคล้องกับพลังงานนี้ ลองนึกภาพมันเป็นคลื่นความถี่วิทยุ คุณต้องปรับคลื่นให้ตรงกับ ‘ความถี่ความร่ำรวย’ นี้ เพื่อดึงดูดความมั่งคั่งเข้ามาสู่ชีวิต การสร้างภาพในจินตนาการ (Visualization) สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ณ จุดนี้ ลองจินตนาการพลังงานที่ไหลเข้ามาในตัวคุณ เติมเต็มความรู้สึกแห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวย และความรุ่งเรือง

บทที่ 5: ฝึกท่องคำพูดบอกตัวเองซ้ำๆย้ำทุกวันว่า “คุณรวย”

ตลอดการเดินทางอันน่าตื่นเต้นไปสู่ความมั่งคั่งนี้ การนำเอาคำยืนยันเชิงบวกบอกตัวเองซ้ำๆย้ำๆในสิ่งที่คุณต้องการหรือสิ่งที่ตังเองอยากเป็น มาใช้ในชีวิตประจำวันถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

คำยืนยันเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดธรรมดา แต่มันเปรียบเสมือนคาถาอันทรงพลังที่ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดจิตใจและวิญญาณของคุณไปสู่ความสำเร็จทางการเงิน

ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนเรากำลังแนะนำให้คุณไปในทางสายมู แต่จริงๆแล้วมันเป็นความจริงของจักรวาล ซึ่งก็คือเมื่อจิตใต้สำนึกเชื่อสิ่งไหนแล้ว สิ่งนั้นจะปรากฏออกมาเป็นความจริงในชีวิตจองคนคนนั้น

คำยืนยันในแต่ละวันจะช่วยฝึกจิตใต้สำนึกของคุณใหม่ โดยแทนที่ความคิดที่จำกัดตัวคุณเอง และรูปแบบความคิดเชิงลบ ด้วยสิ่งที่เป็นบวกและให้พลัง มันเหมือนกับการออกกำลังกายทางจิตใจ เสริมสร้างความเชื่อของคุณในความสามารถที่จะดึงดูดความมั่งคั่ง

การพูดออกมาเพียงครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอ คุณต้องพูดซ้ำคำเหล่านี้ทุกวัน จะดีกว่าหากพูดในสถานที่เงียบๆ ผ่อนคลาย ที่ซึ่งจิตใจของคุณเปิดรับมากที่สุด

ลองพิจารณาคำยืนยันนี้ดู: ‘ฉันเป็นแม่เหล็กดึงดูดความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์’ นี่คือคำยืนยันที่ทรงพลังที่แสดงเจตนาของคุณออกไปสู่จักรวาลโดยตรง กล่าวออกมาดังๆ เขียนลงไป และสอดแทรกลงในชีวิตประจำวันของคุณ

แต่อย่าเพียงแค่พูดท่องจำไปเท่านั้น ให้รู้สึกเชื่อมั่นในคำพูดเหล่านั้น ลองนึกภาพว่าตัวคุณเองเป็นแม่เหล็กอันนั้น ซึ่งดึงดูดความมั่งคั่งเข้ามาสู่ตัวคุณจากทุกทิศทาง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าคำยืนยันเหล่านี้ไม่ใช่คาถาวิเศษ คุณไม่สามารถพูดว่า ‘ฉันร่ำรวย‘ แล้วคาดหวังให้เงินตกลงมาจากฟ้า แบบนั้นมันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ แต่มันเป็นเครื่องมือเพื่อช่วยจัดวางพลังงานของคุณให้สอดคล้องกับพลังแห่งความมั่งคั่ง เพื่อเปิดประตูรับโอกาสต่างๆ และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการลงมือทำ

บทที่ 6: มองเห็นภาพตนเองประสบความสำเร็จด้านการเงินให้ชัดเจน

การฝึกจินตนาการภาพความสำเร็จทางการเงินของคุณ (Visualization) อาจมีความสำคัญพอ ๆ กับขั้นตอนต่างๆ ในทางปฏิบัติที่คุณลงมือทำเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างความมั่งคั่ง

นี่ไม่ใช่วิธีคิดลึกลับพิสดาร แต่มันเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่ได้รับการวิจัยมาอย่างดี เมื่อคุณสร้างภาพความสำเร็จที่ชัดเจนในจิตใจ หลักๆ แล้วคุณกำลังตั้งค่าสมองของคุณให้จดจำและคว้าโอกาสต่างๆ ที่นำไปสู่ความสำเร็จนั้น

ลองนึกภาพเป้าหมายทางการเงินของคุณเป็นเป้าเล็ง คุณยิงถูกเป้าที่มองไม่เห็นได้ยังไงล่ะ? นี่คือจุดที่การสร้างภาพในจิตนาการมีบทบาท คุณต้องเห็นเป้าเล็งของคุณอย่างชัดเจนเพื่อที่จะยิงให้เข้าเป้าหมาย

แต่อย่าเพียงแค่เห็นมันเท่านั้น ให้รู้สึก สัมผัส และใช้ชีวิตเสมือนคุณได้มันมาแล้ว ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ ทิวทัศน์ และอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่จะตามมาเมื่อคุณบรรลุความสำเร็จทางการเงินของคุณ วาดภาพรูปแบบการใช้ชีวิตที่คุณจะมี ความสะดวกสบายที่คุณจะได้รับ และมรดกที่คุณจะทิ้งไว้ข้างหลัง

แต่จำไว้ว่าการฝึกสร้างภาพในจิตนาการนั้นไม่ได้เป็นตัวแทนของการลงมือทำ มันเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อเสริมสร้างการกระทำของคุณ

ดังนั้นอย่าเพียงแค่นั่งฝันกลางวันถึงความมั่งคั่ง ให้ใช้ภาพที่คุณสร้างขึ้นเป็นเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนคุณไปข้างหน้า ให้ลงมือทำ ให้มองหาโอกาส และทำการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและเหมาะสม

ท้ายที่สุด ความสำเร็จทางการเงินที่คุณวาดภาพขึ้นในใจนั้นไม่ใช่เพียงเรื่องของการเห็นตัวเองร่ำรวย แต่มันคือการมองเห็นเส้นทางไปสู่ความมั่งคั่งได้อย่างแจ่มชัดและมั่นใจ จากนั้นก็มีแต่ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่จะก้าวเดินบนเส้นทางนั้น

บทที่ 7: ยินดีซาบซึ้งสิ่งที่ได้รับแม้จะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆก็ตาม 

อ้าแขนพร้อมรับพลังแห่งความซาบซึ้งยินดีกับสิ่งที่ได้รับ (Gratitude) เพราะมันมีบทบาทสำคัญในเส้นทางสู่ความมั่งคั่งของคุณ มันไม่ได้เป็นเพียงแค่การรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณมี แต่มันคือการปลูกฝังความรู้สึกซาบซึ้งอย่างลึกซึ้งต่อความมั่งคั่งทั้งมวลที่ไหลเวียนเข้ามาในชีวิตคุณ

สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่หมายถึงการยอมรับถึงความสมบูรณ์ของประสบการณ์ โอกาสต่างๆ และความสัมพันธ์ที่เติมเต็มชีวิตของคุณ

ความความซาบซึ้งยินดีกับสิ่งที่ได้รับเป็นการเปิดประตูแห่งความอุดมสมบูรณ์ เมื่อคุณรู้สึกขอบคุณ คุณกำลังยืนยันกับจักรวาลว่าคุณพร้อมที่จะได้รับมากขึ้น

นี่คือคำกล่าวอันทรงพลังที่เปลี่ยนความคิดของคุณจากความขาดแคลนไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ คุณไม่ได้สนใจแค่เพียงสิ่งที่คุณขาด แต่คุณกำลังเฉลิมฉลองสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว

เริ่มต้นด้วยการเขียนบันทึกความซาบซึ้งยินดีในสิ่งสิ่งที่มี ในแต่ละวัน ให้เขียนสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณห้าอย่างลงไป อาจเป็นกาแฟอุ่นๆ สักแก้ว การสนทนาอย่างจริงใจกับคนที่คุณรัก หรือเงินเดือนที่เข้าบัญชีธนาคารของคุณ

ลองสังเกตว่าการกระทำง่ายๆ นี้จะเปลี่ยนมุมมองของคุณอย่างไร คุณจะเริ่มมองเห็นชีวิตของคุณผ่านมุมมองของความอุดมสมบูรณ์ ไม่ใช่การขาดแคลน

จำไว้ว่าความความซาบซึ้งยินดีกับสิ่งที่ได้รับไม่ได้เป็นเรื่องง่ายๆ แต่มันคือการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องที่ต้องการความพยายามอย่างสม่ำเสมอ แต่ผลตอบแทนนั้นมหาศาล เมื่อคุณปลูกฝังความความซาบซึ้งยินดีกับสิ่งที่ได้รับ คุณจะพบว่าตัวเองดึงดูดความมั่งคั่งเข้ามาในชีวิตมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงด้านการเงิน แต่ความมั่งคั่งในรูปแบบต่างๆ ที่ปรากฎขึ้น

โดยพื้นฐานแล้ว การปลูกฝังความความซาบซึ้งยินดีกับสิ่งที่ได้รับก็เหมือนกับการปลูกเมล็ดพันธุ์ ด้วยเวลาและการเอาใจใส่ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะเติบโตเป็นสวนแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่เขียวชอุ่ม ดังนั้น จงเริ่มปลูกวันนี้ ความมั่งคั่งรอคุณอยู่ สิ่งที่คุณต้องทำคือโอบรับมันด้วยความซาบซึ้งยินดีกับสิ่งที่ได้รับ

บทที่ 8: กำจัดความคิดเชิงลบให้สิ้น

ตอกย้ำตัวเองด้วยความสงสัยและความเชื่อที่จำกัดตัวเอง มักเป็นอุปสรรคต่อเส้นทางสู่ความมั่งคั่งของคุณ แต่มันถึงเวลาที่จะปลดปล่อยตัวเองและเขียนเรื่องราวของคุณขึ้นใหม่

คุณถูกปรับสภาพให้คิดในทางใดทางหนึ่งเกี่ยวกับเงิน ความสำเร็จ และความมั่งคั่ง มันไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่เป็นหน้าที่ของคุณที่จะท้าทายและเปลี่ยนแปลงความเชื่อเหล่านี้

ความเชื่อที่ว่า ‘เงินคือรากเหง้าของความชั่วทั้งปวง (Money is the root of all evil)’ หรือ ‘คนร่ำรวยคือคนโลภ’ ไม่เพียงแค่ผิดเท่านั้น

แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพทางการเงินของคุณอีกด้วย มันทำให้คุณติดอยู่ในกรอบความคิดของความยากจน ไม่สามารถคว้าความอุดมสมบูรณ์ที่พึงมีของคุณได้ คุณต้องเผชิญหน้ากับความเชื่อที่จำกัดเหล่านี้ ตั้งคำถามถึงความถูกต้องของมัน และแทนที่ด้วยความจริงที่สร้างพลัง

เริ่มต้นด้วยการระบุความเชื่อของคุณเกี่ยวกับเรื่องเงิน เขียนมันออกมานะ คุณอาจจะประหลาดใจว่ามีความคิดเชื่อมโยงเชิงลบมากมายเพียงใดที่คุณแบกรับไว้ตอนนี้

สำหรับแต่ละความเชื่อ ให้ถามตัวคุณเองว่า: ความเชื่อนี้ช่วยให้ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้นไหม? มันช่วยให้ฉันร่ำรวยขึ้นหรือเปล่า? ถ้าคำตอบคือไม่ ถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยวางมันไป

ถัดไป ให้แทนที่ความเชื่อที่จำกัดด้วยความคิดที่เสริมสร้างพลัง

• แทนที่จะคิดว่า ‘เงินคือตัวร้าย’ ลองเปลี่ยนเป็น ‘เงินเป็นเครื่องมือที่ดี’
• แทนที่จะคิดว่า ‘คนร่ำรวยคือคนโลภ’ ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ‘ความมั่งคั่งนำมาซึ่งโอกาสในการช่วยเหลือผู้อื่น

การปล่อยวางความคิดเชิงลบเกี่ยวกับเงินไม่ใช่เรื่องง่าย การทลายกำแพงความเชื่อเดิมที่ฝังรากลึก ต้องอาศัยความกล้าหาญ

แต่จำไว้ว่าคุณไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเพียงคนเดียว คุณกำลังทำเพื่อตัวคุณเองในอนาคตที่มั่งคั่งและแข็งแกร่งขึ้น รอวันเบ่งบาน คุณคือแม่เหล็กดึงดูดความร่ำรวย ถึงเวลาแล้วที่จะปรับความคิดของคุณให้สอดคล้องกับความจริงข้อนี้

บทที่ 9: ปรับตัวเองให้เข้าถึงคลื่นแห่งความร่ำรวย

ตอนนี้คุณได้สลัดความเชื่อที่จำกัดคุณทิ้งไปแล้ว ถึงเวลาที่ต้องเชื่อมต่อตัวคุณเข้ากับพลังแห่งความมั่งคั่ง หรือที่เราเรียกกันว่า “คลื่นแห่งความรวย”

คลื่นแห่งความรวยคือแรงสั่นสะเทือน (หรือความถี่) แห่งพลังงานที่สอดคล้องกับความมั่งคั่งและความร่ำรวย มันคือคลื่นความถี่สากลอันดึงดูดเงินตรา ความสำเร็จ และความมั่งคั่งเข้าหาตัว

คุณไม่ได้แค่ดึงดูดเงินเท่านั้น แต่ยังดึงดูดโอกาส ทรัพยากร และผู้คนที่สามารถช่วยคุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินด้วย

คุณจะเชื่อมต่อกับคลื่นความถี่เหล่านี้อย่างไร?

มันง่ายมาก คุณต้องเร่งความถี่การสั่นสะเทือนให้เท่ากับคลื่นความร่ำรวย ซึ่งหมายถึงการใส่ใจต่อความคิด ความรู้สึก และการกระทำของคุณ

จงจำไว้ว่า สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน หากคุณสั่นสะเทือนที่ความถี่แห่งความขาดแคลนและความไม่พอ นั่นแหละคือสิ่งที่จะดึงดูดเข้าหาคุณ แต่หากคุณสั่นสะเทือนที่ความถี่แห่งความมั่งคั่งและความร่ำรวย คุณก็จะดึงดูดสิ่งเหล่านั้นเข้ามา

เริ่มต้นด้วยการรู้สึกขอบคุณต่อสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว ความรู้สึกขอบคุณจะช่วยยกระดับความถี่การสั่นของคุณ ทำให้ดึงดูดสิ่งที่คุณซาบซึ้งมาสู่ตัวได้มากขึ้น

จากนั้นให้จินตนาการว่าคุณร่ำรวยแล้ว ให้สัมผัสความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับการมีเงินตามที่ต้องการ นี่ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความถี่ของคุณ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังจักรวาลว่าคุณปรารถนาอะไร

นอกจากนี้ ให้ฝึกการยืนยันตัวเองเชิงบวกที่สอดคล้องกับความร่ำรวยและความมั่งคั่ง เช่น “ฉันรวย” “เงินมาหาฉันอย่างง่ายดาย” และ “ฉันเป็นแม่เหล็กดูดเงิน” คำยืนยันเหล่านี้จะเสริมความเชื่อมั่นในศักยภาพดึงดูดความมั่งคั่งของคุณเอง

บทที่ 10: ใช้พลังของกฎแห่งแรงดึงดูด (Law of Attraction)

เพื่อดึงความถี่แห่งความมั่งคั่งที่คุณเพิ่งค้นพบมาใช้อย่างแท้จริง คุณต้องเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากกฎแรงดึงดูด ซึ่งเป็นหลักการทรงพลังของจักรวาลที่ช่วยเพิ่มพูนความพยายามสร้างความร่ำรวยได้อย่างมหาศาล

กฎแรงดึงดูดทำงานบนแนวคิดที่ว่าสิ่งเหมือนกันจะดึงดูดกัน นั่นหมายความว่าถ้าคุณรักษาความคิดที่เน้นความมั่งคั่งไว้ ความร่ำรวยก็จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ลองชี้แจงกันให้ชัดดูว่าหลักการนี้ทำงานอย่างไร ลองจินตนาการว่าจิตใจของคุณเป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดสิ่งที่คุณโฟกัสเป็นหลัก หากคุณครุ่นคิดแต่เรื่องความขาดแคลนอยู่ตลอดเวลา คุณจะดึงดูดสถานการณ์แบบนั้นเข้ามาเพิ่มขึ้น

แต่ถ้าคุณเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความอุดมสมบูรณ์ คุณจะเริ่มดึงดูดความมั่งคั่ง นี่ไม่ใช่ทฤษฎีลอยๆ แต่มันคือหลักการที่นำไปปฏิบัติได้จริงและพิสูจน์แล้วว่าได้รับการยอมรับจากคนประสบความสำเร็จทั่วโลก

เพื่อใช้กฎแรงดึงดูดให้เกิดผลสูงสุด คุณต้องมีทัศนคติเชิงบวกและมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายด้านการเงิน จินตนาการว่าตัวเองบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นแล้ว สัมผัสความสุขและความพึงพอใจที่มาพร้อมกับอิสรภาพทางการเงิน ภาพในใจนี้ไม่ใช่แค่ฝันเฟื่อง แต่มันเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ดึงดูดความปรารถนาของคุณเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง

การยืนยันตัวเองเชิงบวกก็เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเช่นกัน การบอกกับตัวเองประจำว่า “ฉันร่ำรวย” หรือ “เงินไหลมาหาฉันอย่างง่ายดาย” จะปลูกฝังระบบความเชื่อที่สอดคล้องกับความพยายามสร้างความมั่งคั่งของคุณ โปรดจำไว้ว่ามันไม่ใช่แค่การเปล่งคำพูด แต่มันคือการเชื่อมั่นอย่างแท้จริง

การใช้พลังจากกฎแรงดึงดูดไม่ได้ช่วยให้รวยชั่วข้ามคืน แต่มันคือการเปลี่ยนวิถีชีวิต หากคุณฝึกฝนสม่ำเสมอและมีความเชื่อมั่น ในไม่ช้าคุณจะพบว่าตัวคุณสามารถดึงดูดความมั่งคั่ง ความร่ำรวย และทุกสิ่งที่จักรวาลหยิบยื่นให้ได้

บทที่ 11: เพิ่มความมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง

การสร้างคุณค่าในตัวเองคือขั้นตอนพื้นฐานของเส้นทางมุ่งสู่ความร่ำรวย ความเชื่อในคุณค่าของตัวเองจะปูพื้นฐานสำหรับความมั่งคั่ง สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าคุณค่าในตัวเองไม่ได้วัดจากข้าวของเงินทองหรือสถานะทางสังคม แต่เป็นการยอมรับคุณค่าที่มีติดตัวคุณตั้งแต่เกิดในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

เพื่อเริ่มสร้างความมั่นใจในคุณค่าของตัวเอง คุณต้องยอมรับตัวเองอย่างเต็มที่ รวมถึงจุดด้อยต่างๆด้วย คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ นั่นไม่เป็นไรเลย จุดอ่อนต่างหากที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร ยอมรับมัน และอย่าปล่อยให้มันมาบั่นทอนคุณค่าในตัวเอง

จากนั้นคุณต้องทำความเข้าใจกับอดีต ความผิดพลาดและความล้มเหลวในอดีตไม่ได้กำหนดคุณค่าของคุณ คุณได้เรียนรู้จากมันแล้ว และมันทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น อดีตเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวชีวิตของคุณ แต่ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมด คุณมีดีมากกว่าเรื่องราวในอดีต

ต่อมา ให้โฟกัสที่คุณสมบัติเชิงบวกของคุณ คุณมีทักษะ ความสามารถ และพรสวรรค์ที่ทำให้คุณโดดเด่น และคุณสามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ เริ่มต้นเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะถ้าตัวคุณเองไม่เชื่อในคุณค่าของตัวเอง แล้วใครจะเชื่อ?

สุดท้าย ให้แวดล้อมตัวเองด้วยคนที่สร้างอิทธิพลที่ดีต่อคุณ คนรอบข้างสามารถช่วยยกระดับหรือทำลายคุณได้ เลือกคนที่เห็นคุณค่าในตัวคุณ และคอยสนับสนุนให้คุณมองเห็นคุณค่าเหล่านั้นในตัวเองเช่นกัน

การสร้างความมั่นใจในคุณค่าของตัวเองเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการดึงดูดความมั่งคั่ง เมื่อคุณเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าตัวคุณคู่ควรกับความอุดมสมบูรณ์ จักรวาลจะตอบสนองกลับมาในทางเดียวกัน เพราะฉะนั้น เริ่มตีมูลค่าให้ตัวเอง แล้วเฝ้าดูความมั่งคั่งที่คุณปรารถนาค่อยๆ ไหลมาหาคุณ

บทที่ 12: ลงมือทำพร้อมแรงบันดาลใจที่เต็มเปี่ยม

เมื่อคุณได้วางรากฐานความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองแล้ว ถึงเวลานำคุณค่านั้นออกไปปฏิบัติ ผ่านการลงมือทำแบบเด็ดขาดเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้เป็นจริง จำไว้ว่าคุณไม่ได้แค่หวังให้ร่ำรวย

แต่คุณกำลังขยับเข้าไปใกล้ความมั่งคั่งอย่างไม่หยุดยั้ง ขอให้เข้าใจว่าการยืนยันตัวเองเชิงบวกนั้นเป็นแค่เครื่องมือหนึ่ง แต่ต้องใช้ร่วมกับความพยายามและแผนการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

ขั้นแรก ให้ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนและวัดผลได้ คุณต้องการเพิ่มรายได้ เก็บเงินเพื่อไปเที่ยวทริปในฝัน หรือปลดหนี้สินใช่ไหม? ต้องเจาะจงและอยู่บนพื้นฐานความจริง การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณมีอะไรให้ลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม

จากนั้น ให้พัฒนาความคิดแบบคนรวย นี่ไม่ได้หมายถึงการคิดถึงแต่เรื่องความร่ำรวย แต่เป็นการเข้าใจและปรับเปลี่ยนตัวเอง ให้มีนิสัย ทัศนคติ และพฤติกรรมแบบคนมั่งคั่ง นั่นอาจหมายถึงการลงทุนพัฒนาตัวเอง การสร้างเครือข่ายกับคนที่ประสบความสำเร็จ หรือเรียนรู้การบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายคือ การลงมือทำ จำไว้ว่า จักรวาลตอบสนองต่อการกระทำ คุณไม่สามารถนั่งเฉยๆ แล้วรอให้ความร่ำรวยเดินมาหาคุณได้ ก้าวเดินอย่างที่จำเป็นเพื่อพัฒนาสถานะทางการเงิน อาจรวมถึงการหางานที่มีรายได้สูงขึ้น การสร้างธุรกิจเสริม หรือลงทุนในหุ้น

ตลอดเส้นทางนี้ ให้มีความอดทนและตั้งใจแน่วแน่ การสร้างความมั่งคั่งไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน มันคือกระบวนการ และต้องการความสม่ำเสมอ แต่ด้วยความเชื่อมั่นอันแรงกล้าในคุณค่าของตัวคุณเอง เป้าหมายที่ชัดเจน ความคิดแบบคนรวย และการลงมือทำอย่างเด็ดขาด คุณกำลังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องสู่การเป็นคนที่ไม่ใช่แค่รู้สึกว่ารวย แต่เป็นคนที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง

บทที่ 13: สร้างกระดานตั้งเป้าหมายทางการเงิน (Vision Board)

ขณะที่คุณกำลังดำเนินตามขั้นตอนสำคัญสู่การสร้างความร่ำรวย การสร้างกระดานฝันทางการเงินถือเป็นเครื่องมือทรงพลังในการดึงดูดเป้าหมายทางการเงินให้เกิดขึ้นจริง กระดานฝันทางการเงินนั้นโดยพื้นฐานแล้ว คือการรวบรวมภาพ คำพูด และตัวเลขที่เป็นตัวแทนความทะเยอทะยานทางการเงินของคุณเข้าด้วยกัน ลองนึกภาพว่ามันเป็นตัวแทนของสิ่งที่คุณยืนยันกับตัวเองทางการเงิน รวมถึงเป้าหมายของคุณ

เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน ความร่ำรวยสำหรับคุณหมายความว่าอย่างไร? คือการมีรายได้หกหลัก การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ หรือการปลดเปลื้องตัวเองจากหนี้? นี่คือภาพฝันของคุณ เพราะฉะนั้นมันสำคัญที่ภาพนั้นจะสะท้อนตัวตนของคุณ

ต่อไปให้รวบรวมภาพ คำพูด และตัวเลขที่เป็นสัญลักษณ์ของเป้าหมายเหล่านี้ จงใช้ความคิดสร้างสรรค์ และเลือกสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งเป้าจะเป็นเจ้าของบ้าน ให้ใส่รูปบ้านในฝันของคุณเข้าไปด้วย หากเป้าหมายของคุณคือการเริ่มต้นธุรกิจ ก็ให้ใส่ภาพที่สะท้อนสิ่งนั้น

จากนั้น ให้จัดวางสิ่งต่างๆ เหล่านี้บนกระดานของคุณ โปรดจำไว้ว่านี่ไม่ใช่แค่โปรเจกต์งานศิลปะ แต่เป็นเครื่องมือสร้างสิ่งที่คุณปราถนาให้เป็นจริง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดวางให้น่าดึงดูดและกระตุ้นแรงบันดาลใจให้กับคุณ

สุดท้าย วางกระดานฝันของคุณไว้ในที่ซึ่งคุณจะมองเห็นได้ทุกวัน ใช้มันเป็นเครื่องเตือนใจถึงเป้าหมายทางการเงินของคุณ และปล่อยให้มันเป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้คุณไขว่คว้าตามเป้าหมายเหล่านั้น

โดยสรุปแล้ว กระดานฝันทางการเงินคือหนทางที่จับต้องได้สำหรับรักษาเป้าหมายทางการเงินให้อยู่ตรงหน้าคุณเสมอ มันเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพความมั่งคั่ง และดึงดูดความสำเร็จทางการเงินเข้ามาหาคุณ เพราะฉะนั้น เริ่มสร้างกระดานฝันทางการเงินของคุณ และเริ่มทำให้ความรุ่งเรืองนั้นเกิดขึ้นจริง

บทที่ 14: ยืนยันรับอิสรภาพทางการเงิน

เหมือนอย่างที่กระดานฝันทางการเงินช่วยให้เห็นภาพความมั่งคั่งของคุณ การยืนยันอิสรภาพทางการเงินก็เป็นอีกเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้น นี่ไม่ใช่แค่ความคิดที่ปรารถนาให้เป็นจริง

แต่มันเกี่ยวกับการปรับจิตใจให้ดึงดูดโอกาสที่จะนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน และการเปลี่ยนคำพูดจาก “ฉันไม่สามารถจ่ายได้” เป็น “ฉันจะสามารถจ่ายได้อย่างไร?”

ลองจินตนาการถึงพลังแห่งการบอกตัวเองอย่างสม่ำเสมอว่า “ฉันมีอิสรภาพด้านการเงิน ฉันสามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างล้นเหลือ” นี่ไม่ใช่แค่ถ้อยคำ

แต่เป็นการประกาศเจตนาของความตั้งใจในการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน มันคือเมล็ดพันธุ์ที่คุณปลูกลงไปในจิตใจของคุณเอง ซึ่งภายใต้สภาวะท่ีเหมาะสม จะเติบโตเป็นต้นไม้แห่งความมั่งคั่งอันแข็งแกร่ง

เริ่มต้นด้วยการจัดสรรเวลาเพียงไม่กี่นาทีในแต่ละวันสำหรับการยืนยันตัวเองเชิงบวก ยืนต่อหน้ากระจก สบตาตัวเอง และยืนยันอิสรภาพทางการเงินของคุณด้วยความเชื่อมั่น สัมผัสพลังจากคำพูดของคุณ ปล่อยให้มันซึมซับความคิด และเป็นแรงบันดาลใจให้คุณลงมือทำ

โปรดจำไว้ว่าคำยืนยันจะได้ผลดีที่สุดเมื่อมีความเจาะจง

• แทนที่จะพูดว่า “ฉันรวย” ให้พูดว่า “ฉันทำเงินได้ 10,000 ดอลลาร์ต่อเดือนจากการทำสิ่งที่ฉันรัก”

มันไม่ใช่แค่การมีเงิน แต่เป็นการหาเงินด้วยวิธีที่จะทำให้คุณมีความสุขและรู้สึกเติมเต็ม

การยืนยันอิสรภาพทางการเงินเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ทำครั้งเดียวแล้วจบ คุณต้องยืนยันต่อไป เชื่อต่อไป และทำงานเพื่อเป้าหมายทางการเงินของคุณต่อไป

จักรวาลกำลังรับฟังและเตรียมพร้อมช่วยเหลือคุณแล้ว แต่คุณต้องเป็นฝ่ายเดินก้าวแรก ดังนั้น เริ่มยืนยันอิสรภาพทางการเงินของคุณได้ตั้งแต่วันนี้

บทที่ 15: ปลุกพลังดึงดูดเงินในตัวคุณ

เชื่อหรือไม่ คุณสามารถเป็นแม่เหล็กดูดเงินได้ ดึงทรัพยากรทางการเงินที่คุณต้องการมาเพื่อสร้างความฝันของคุณให้เป็นจริง

จุดประกายแม่เหล็กแห่งโชคลาภด้วยการปรับให้ตัวคุณสอดคล้องกับความมั่งคั่ง โฟกัสจิตใจ และใช้ทัศนคติเชิงบวกต่อความสามารถด้านการเงินของตัวคุณ

เพื่อกระตุ้นแม่เหล็กแห่งโชคลาภ ให้เริ่มต้นด้วยการมองให้เห็นสิ่งที่คุณต้องการ นี่ไม่ได้หมายถึงการขอเงินล้าน

แต่เป็นการบ่มเพาะความรู้สึกเหมือนได้ครอบครองเงินล้านนั้นแล้ว การได้มีอิสระ ความปลอดภัย และโอกาสที่มาพร้อมกับความร่ำรวยนั้นให้ความรู้สึกอย่างไร? ด้วยการดื่มด่ำไปกับความรู้สึกเหล่านี้ คุณกำลังเริ่มดึงดูดสิ่งที่คุณกำลังส่งออกไป

จากนั้น ให้ปรับเปลี่ยนความคิดของคุณ เงินไม่ใช่สิ่งเลวร้าย มันเป็นเครื่องมือที่สามารถทำให้คุณเข้าใกล้ความฝันมากยิ่งขึ้น และเงินก็ไม่ได้หายาก มีมากพอสำหรับทุกคน ยอมรับความจริงเหล่านี้ และปล่อยให้มันชี้นำความคิด รวมถึงการกระทำเกี่ยวกับเรื่องเงินของคุณ

สุดท้าย ให้แสดงความขอบคุณ ซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ปรารถนามากกว่านี้ แต่การรู้สึกขอบคุณต่อสิ่งที่คุณมีในปัจจุบัน นั่นคือการบ่มเพาะทัศนคติเชิงบวกที่ดึงดูดความสุขความเจริญมาหาคุณมากขึ้น

บทที่ 16: ตระหนักรู้ถึงความมั่งคั่งอยู่ตลอด

การปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความมั่งคั่งลงไปในชีวิตประจำวันสามารถเสริมพลังดึงดูดความร่ำรวยของคุณได้อย่างมหาศาล มันไม่ได้หมายถึงแค่การอยากมีเงิน

แต่หมายถึงการสวมใส่ความคิด และใช้ชีวิตแบบคนรวย นี่คือการปรับเปลี่ยนพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกความจริงด้านการเงินของคุณ

จิตสำนึกแห่งความมั่งคั่งเกี่ยวกับการเข้าใจว่าตัวคุณคู่ควรกับความร่ำรวย และมันอยู่ใกล้แค่มือเอื้อม

มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนจากความคิดแบบคนขาดแคลนที่กลัวอยู่ตลอดเวลาว่าจะไม่มีพอ ไปเป็นความคิดแบบคนมีมากที่เชื่อว่ามีมากพอสำหรับทุกคน รวมทั้งตัวคุณเอง และเชื่อว่าตัวเองไม่เพียงแค่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ แต่คุณยังคู่ควรกับมันด้วย

การฝึกฝนการยืนยันตัวเองเชิงบวกด้านการเงินเป็นวิธีทรงพลังที่จะช่วยให้คุณเริ่มสวมใส่มโนสำนึกแห่งความมั่งคั่งได้

การยืนยันเหล่านี้จะช่วยคุณปรับเปลี่ยนมุมมองด้านการเงินและปลดปล่อยตัวเองจากความเชื่อที่คับแคบซึ่งเป็นอุปสรรคขวางกั้นความสำเร็จของคุณ คุณสามารถพูดคำยืนยันเหล่านี้ออกเสียง เขียนลงไป

หรือแม้กระทั่งนั่งสมาธิเพ่งสมาธิกับมันก็ได้ ยิ่งคุณท่องจำคำยืนยันเหล่านี้มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งฝังรากลึกในจิตใต้สำนึกของคุณมากขึ้น และคุณก็จะยิ่งเริ่มเชื่อมั่นในมันมากขึ้นเท่านั้น

บทที่ 17: เพิ่มพลังคลื่นความถี่แห่งความร่ำรวย

เพื่อเพิ่มพลังคลื่นความถี่แห่งโชคลาภของคุณ คุณต้องเชื่อมโยงความคิด ความรู้สึก และการกระทำของคุณเข้ากับพลังงานแห่งความอุดมสมบูรณ์และความรุ่งเรือง

คุณจำเป็นต้องดื่มด่ำไปกับความคิดเชิงบวก โฟกัสที่ความมั่งคั่งที่คุณปรารถนา ไม่ใช่สิ่งที่ขาดหายไป มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนความคิดของคุณจากความขาดแคลนไปสู่ความอุดมสมบูรณ์ ยอมรับว่าจักรวาลนั้นอุดมสมบูรณ์ และคุณก็สามารถเป็นเช่นนั้นได้

ลองนึกภาพตัวเองว่ากำลังอาศัยอยู่ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ จินตนาการว่าเงินในบัญชีธนาคารของคุณล้นทะลัก บิลต่างๆ ก็ถูกจ่ายอย่างง่ายดาย และมีความเป็นอิสระอย่างที่ความมั่งคั่งทางการเงินมอบให้ได้

สัมผัสกับอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับภาพนี้—ความสุข ความสงบ และความตื่นเต้น มันไม่ใช่แค่การคิดหวังลมๆแล้งๆ หรือการเพ้อฝัน แต่มันเป็นวิธีทรงพลังในการดึงดูดสิ่งที่คุณต้องการ

จากนั้น ให้แสดงความขอบคุณต่อสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว การมีความรู้สึกขอบคุณส่งแรงสั่นสะเทือนเชิงบวกออกมา ซึ่งจะดึงดูดพลังบวกเข้ามาตอบแทน มันคือวัฏจักรแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีจุดเริ่มต้นจากคำง่ายๆ ว่า “ขอบคุณ”

สุดท้าย ให้ใช้คำยืนยัน คำยืนยันเหล่านี้คือถ้อยคำเชิงบวกที่ตอกย้ำความปรารถนาในความมั่งคั่งของคุณ ประโยคอย่าง “ฉันร่ำรวย” “เงินไหลมาหาฉันง่ายดาย” หรือ “ฉันดึงดูดความมั่งคั่งได้อย่างง่ายดาย” ล้วนเป็นเครื่องมือทรงพลังในการเพิ่มการสั่นสะเทือนดึงดูดเงินของคุณ ท่องคำยืนยันเหล่านี้ทุกวัน และเชื่อมั่นในถ้อยคำเหล่านั้นอย่างแท้จริง

บทที่ 18: ดึงดูดโอกาสที่จะนำไปสู่ความร่ำรวย

เมื่อคุณปรับจูนเข้ากับคลื่นความถี่แห่งโชคลาภของคุณแล้ว คุณจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในจักรวาลรอบตัวคุณ จักรวาลจะมอบโอกาสแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน โอกาสเหล่านี้อาจปรากฏในรูปแบบของข้อเสนองาน

ข้อเสนอทางธุรกิจ โอกาสในการลงทุน หรือแม้แต่การถูกลอตเตอรี่ แต่โปรดจำไว้ว่ามันไม่ใช่แค่การมองเห็นโอกาสเหล่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการคว้ามันมาเป็นของคุณด้วย นี่หมายถึงการเสี่ยงอย่างมีการคำนวณและความกล้าที่จะลงมือทำสิ่งใหญ่ๆ

ตอนนี้ เพื่อดึงดูดโอกาสเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความคิดเชิงบวกและความรุ่งเรือง ความคิด คำพูด และการกระทำของคุณควรสะท้อนถึงความคิดที่เปี่ยมด้วยความมั่งคั่ง

หากคุณคิดอยู่ตลอดเวลาถึงเรื่องความขาดแคลนหรือสิ่งที่ขาดหายไป นั่นแปลว่าคุณกำลังปิดกั้นกระแสความอุดมสมบูรณ์ อย่าจำกัดตัวเองด้วยความคิดเชิงลบหรือความสงสัยในตนเอง ให้ปลดปล่อยตัวเองออกจากการยับยั้งใจ และยืนยันว่าตัวเองคือแม่เหล็กดึงดูดความมั่งคั่ง

ลองนึกภาพความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตของคุณ จินตนาการว่าตัวเองกำลังใช้ชีวิตที่คุณปรารถนา—ชีวิตที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและความสำเร็จ การสร้างภาพในใจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดสิ่งที่คุณต้องการ

จักรวาลตอบสนองต่อพลังงานที่คุณปล่อยออกไป ดังนั้นจึงต้องทำให้มั่นใจว่าพลังงานที่ปล่อยออกไปนั้นเป็นเชิงบวกและอุดมสมบูรณ์

บทที่ 19: สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้เป็นจริง

เมื่อตอนนี้คุณเริ่มดึงดูดโอกาสสู่ความอุดมสมบูรณ์กันแล้ว มาดูกันเลยว่าคุณจะสามารถสร้างความมั่งคั่งและความรุ่งเรืองในชีวิตได้อย่างไรอย่างเป็นรูปธรรม

คุณจะเห็นว่าการดึงดูดโอกาสนั้นเป็นเพียงก้าวแรก เวทมนตร์ที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้กลายเป็นความมั่งคั่งที่จับต้องได้

ขั้นแรก ให้เข้าใจว่าความมั่งคั่งไม่ได้หมายถึงแค่เงิน แต่เป็นความคิด เป็นวิถีชีวิต และสถานะของการมีการเป็น เริ่มต้นด้วยการมองให้เห็นภาพชีวิตของคุณอย่างที่คุณต้องการให้มันเป็น

จินตนาการว่าตัวเองถูกรายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์และใช้ชีวิตด้วยความรุ่งเรือง การทำแบบนี้ไม่ใช่แค่การฝันเฟื่อง แต่มันเป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการเนรมิตให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง จำไว้เสมอว่าเอกภพจะตอบสนองต่อความคิดและความรู้สึกของคุณ

ต่อมา คือการใช้คำยืนยันเพื่อตอกย้ำภาพฝันของคุณ ท่องประโยคอย่าง “ฉันร่ำรวย” “ฉันดึงดูดความมั่งคั่ง” หรือ “เงินไหลมาหาฉันง่ายดาย” คำยืนยันเหล่านี้ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นตัวกำหนดจุดมุ่งหมายอันทรงพลัง ที่จะปรับตัวคุณให้สอดคล้องกับคลื่นความถี่แห่งความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์

และอย่าลืมแสดงความขอบคุณ การรู้จักรู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว จะเปิดพื้นที่ให้สิ่งอื่นๆ ไหลเข้ามามากขึ้น เปรียบเหมือนการบอกกับจักรวาลว่า “ฉันซาบซึ้งกับสิ่งที่ฉันมี และฉันพร้อมที่จะรับสิ่งอื่นๆ เพิ่มขึ้นแล้ว”

สุดท้าย ลงมือทำ การเนรมิตความมั่งคั่งไม่ได้หมายถึงการนั่งรอคอยเงินตกลงมาจากฟ้า มันเกี่ยวกับการทำให้การกระทำของคุณสอดคล้องกับความตั้งใจ

ติดตามโอกาสที่คุณดึงดูดเข้ามา ไล่ตามสิ่งที่คุณหลงใหล ลงทุนอย่างชาญฉลาด และตัดสินใจที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์แห่งความมั่งคั่งและรุ่งเรืองของคุณ

การสร้างความมั่งคั่งไม่ใช่แค่ความเป็นไปได้ แต่มันคือความจริงที่รอให้คุณเข้าไปครอบครอง เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย แล้วเฝ้าดูเวทมนตร์ที่เกิดขึ้น

บทที่ 20: ใช้ชีวิตแบบมีอิสรภาพทางการเงิน

ลองจินตนาการถึงชีวิตที่เงินไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และคุณสามารถไล่ตามความหลงใหลของคุณได้อย่างไม่มีอุปสรรคทางการเงิน นั่นแหละคือพลังของอิสรภาพทางการเงิน มันไม่เพียงพอที่จะสะสมความมั่งคั่งเอาไว้เฉยๆ คนเราต้องสามารถจัดการมันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

อิสรภาพทางการเงินหมายถึงการที่คุณควบคุมการเงินของคุณได้ดี โดยไม่มีหนี้สินค้างคาอยู่บนหัวคุณ มันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องแปลว่าคุณร่ำรวย แต่คุณมีมากพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสบาย

คุณไม่ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตไปวันๆด้วยเงินเดือน และไม่ต้องกังวลว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่คุณอยู่ในจุดที่สามารถตัดสินใจได้โดยไม่ต้องขึ้นกับสถานะทางการเงินของคุณ

การบรรลุอิสรภาพทางการเงินจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงความคิด คุณต้องมองว่าเงินไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณบรรลุความฝันของคุณ เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่เป็นจริงได้

จากนั้นจึงสร้างแผนการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงการออมอย่างสม่ำเสมอ การลงทุนอย่างชาญฉลาด และการใช้ชีวิตอย่างพอประมาณ

อย่าลืมว่าเอกภพตอบสนองต่อความคิดและความรู้สึกของคุณ มันเกี่ยวกับการก้าวเดินอย่างมั่นคงแต่ช้าๆ ไปสู่เป้าหมายทางการเงินของคุณ อย่าเปรียบเทียบการเดินทางของคุณกับคนอื่น หนทางสู่การมีอิสรภาพทางการเงินของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ส่วนบุคคล ทักษะ และความปรารถนาของแต่ละคน

การมีอีสรภาพทางการเงินทำให้คุณมีจิตใจที่สงบสุข และมีความรู้สึกึกเข้มแข็งในตัวเอง โซ่ตรวนแห่งความกังวลและความเครียดทางการเงินไม่อาจจะรั้งคุณได้อีกต่อไป แต่คุณจะมีอิสระในการเลือกสิ่งต่างๆ ที่จะสร้างความงอกงามให้กับชีวิตของคุณและคนที่อยู่รอบอบตัวคุณ จริงๆแล้ว อิสรภาพทางการเงินคือสภาวะทางจิตใจที่เราแต่ละคนคู่ควรจะได้สัมผัส

บทที่ 21: ปลูกฝังการน้ำใจและการแบ่งปัน

บนเส้นทางสู่ความมั่นคงทางการเงิน การปลูกฝังจิตวิญญาณแห่งการให้และความเอื้อเฟื้อถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่จะเสริมสร้างคุณค่าให้ชีวิตของคุณเอง แต่มันยังส่งผลดีต่อผู้อื่นด้วย คำถามคือ เราจะทำสิ่งนี้ได้อย่างมีประสิทธิผลอย่างไร?

อันดับแรก ขอให้เข้าใจว่าการให้นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เงินทอง แต่ยังเป็นเรื่องของวิธีคิดแบบ “ความอุดมสมบูรณ์” คือความเชื่อมั่นว่าเรามีเพียงพอสำหรับทุกคน เราให้เวลาของเรา ให้ทักษะ ความรู้ และทรัพยากรด้วยความเต็มใจและเบิกบานใจ ทั้งหมดนี้ คือการสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของใครบางคน ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด

คุณจะเริ่มบ่มเพาะจิตวิญญาณแห่งการให้นี้ได้อย่างไร? จงเริ่มต้นด้วยการมองเห็นความอุดมสมบูรณ์รอบตัวอย่างใส่ใจ อาจจะเป็นคลังความรู้ที่คุณมี เวลาที่คุณหาได้ หรือทรัพยากรต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ การเปลี่ยนมุมมองนี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมันช่วยให้คุณมองทะลุความต้องการของตัวเองในทันทีออกไปได้

ประการที่สอง ให้มองหาโอกาสในการให้เสมอ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ แค่เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ อย่างเช่น การซื้ออาหารมื้อหนึ่งให้ใครสักคน บริจาคเพื่อสนับสนุนสิ่งที่คุณเชื่อ หรือสละเวลาช่วยเหลือผู้อื่น เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การทำให้ตัวเองขาดแคลน แต่เป็นการแบ่งปันสิ่งที่มี เมื่อทำได้

ท้ายที่สุด โปรดจำไว้ว่า การให้และความเอื้อเฟื้อควรเกิดจากความสุขใจ ไม่ใช่พันธะหน้าที่ มันคือความรู้สึกอยากแบ่งปัน ไม่ใช่ความรู้สึกจำเป็นต้องทำ วิธีคิดแบบนี้แหละที่จะทำให้การให้ของคุณเติมเต็มชีวิตทางอารมณ์และจิตใจ ไม่ใช่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนทางการเงินเท่านั้น

การบ่มเพาะความเอื้อเฟื้อและการให้คือส่วนสำคัญในเส้นทางสู่ความมั่งคั่งของคุณ เพราะมันช่วยให้ความเจริญรุ่งเรืองนั้นไม่เพียงทำให้คุณได้ประโยชน์ แต่ยังรวมไปถึงคนรอบข้างด้วย

บทที่ 22: รักษาความคิดแบบคนร่ำรวยทุกวัน

การรักษาวิถีคิดรวยนั้นไม่ใช่เหตุการณ์ที่ทำเพียงครั้งเดียวจบ แต่มันเป็นการฝึกฝนประจำวันที่ต้องใช้ทั้งความตั้งใจและมุ่งมั่น ลองนึกภาพว่าการพัฒนาวิถีคิดนี้เป็นเหมือนกับการดูแลสวน

คุณคงไม่ได้หว่านเมล็ดแล้วก็ลืมไปเลยใช่ไหม? คุณต้องบำรุง รดน้ำ แล้วคอยกำจัดวัชพืชออกไป เหมือนกันเป๊ะเลย การรักษาวิถีคิดรวยนั้นก็ต้องอาศัยการดูแลความคิด การกระทำ และความเชื่อเรื่องเงินของเราในทุก ๆ วัน

เพื่อให้มั่นใจว่าคุณอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ให้เริ่มแต่ละวันของคุณด้วยคำยืนยันเชิงบวก ประโยคดี ๆ แบบนี้จะช่วยตั้งโปรแกรมจิตใจของคุณใหม่ให้เปิดรับความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์

ให้ลองพูดอะไรประมาณ ‘ฉันคือแม่เหล็กดึงดูดเงิน‘ หรือ ‘ความมั่งคั่งไหลเข้ามาในชีวิตฉันอย่างง่ายดาย‘

แต่ต้องจำไว้ว่าแค่คำพูดอย่างเดียวไม่พอ คุณต้องเชื่อมั่นและปฏิบัติตามที่พูดด้วย

ให้ความสนใจกับนิสัยการใช้เงินของคุณ คุณใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดหรือไม่? คุณกำลังออมเงินและลงทุนอยู่ไหม? ต้องแน่ใจว่าสิ่งที่คุณทำนั้นสอดคล้องกับวิถีคิดรวยของคุณ ถ้าไม่ใช่ ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว เพื่อที่คุณจะได้มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้อย่างไม่หลงทาง คุณต้องตรวจสอบและปรับเปลี่ยนแผนของคุณเป็นประจำ

สุดท้ายนี้ ขอให้ล้อมรอบตัวเองด้วยสิ่งที่มีอิทธิพลบวกต่อคุณ อ่านหนังสือ ฟังพอตแคสต์ หรือคบหากับคนที่จุดประกายให้คุณอยากรวย พวกเขาจะช่วยเสริมสร้างวิถีคิดรวยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

บทที่ 23: ฉลองความร่ำรวยที่หลั่งไหลเข้ามา

มาถึงตรงนี้คุณได้ปลดล็อกวิถีคิดแห่งความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์แล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาเฉลิมฉลองกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริง!

ด้วยการฝึกฝนความรู้สึกขอบคุณ จินตนาการถึงความมั่งคั่งที่ต่อเนื่อง ยืนยันความร่ำรวยของเราในแต่ละวัน และแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่น

คุณไม่ได้เพียงแค่แสดงความตระหนักถึงทรัพย์สมบัติที่คุณดึงดูดเข้ามาได้เท่านั้น แต่ยังเตรียมพร้อมเวทีให้ความมั่งคั่งไหลเวียนเข้ามาเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ความขอบคุณสำหรับความอุดมสมบูรณ์

การยอมรับจิตวิญญาณแห่งความขอบคุณสำหรับความอุดมสมบูรณ์ที่คุณสร้างขึ้นถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการหล่อหลอมสถานะของคุณให้มั่นคง ในฐานะผู้มั่งคั่งอย่างแท้จริง การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าพรที่คุณมีจะส่งสัญญาณอันทรงพลังไปยังจักรวาล ยืนยันความพร้อมของคุณในการเปิดรับสิ่งดี ๆ ให้มากขึ้น

มันไม่เกี่ยวกับจำนวนที่คุณมี แต่เป็นทัศนคติที่คุณมีต่อมัน ยิ่งคุณรู้สึกมั่งคั่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงดูดความร่ำรวยได้มากเท่านั้น เพราะฉะนั้น เตรียมสมุดบันทึกความรู้สึกขอบคุณ และเขียนบันทึกทุกวันเกี่ยวกับสิ่งดี ๆ ทางการเงินที่เกิดขึ้นกับคุณ ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหน

การฝึกฝนนี้จะเชื่อมโยงคุณเข้ากับพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์ ปูทางให้ความมั่งคั่งไหลเข้ามาในชีวิตของคุณได้มากขึ้น อย่าแค่ปรารถนาความร่ำรวย แต่จงขอบคุณมัน และเฝ้าดูจักรวาลตอบสนองคุณในรูปแบบเดียวกัน โปรดจำไว้ว่า ความรู้สึกขอบคุณคือทัศนคติที่ดีที่สุด

สร้างภาพความมั่งคั่งร่ำรวยในใจก่อน

หลังจากเชี่ยวชาญด้านความรู้สึกขอบคุณแล้ว เรามาเปลี่ยนจุดสนใจมาที่พลังแห่งการสร้างภาพในใจกันบ้าง อันเป็นเครื่องมืออันน่าสนใจในการเฉลิมฉลองและเพิ่มพูนความมั่งคั่งที่คุณสร้างขึ้นให้ยิ่งใหญ่

การสร้างภาพในใจไม่ใช่แค่การฝันเฟื่อง แต่เป็นกระบวนการที่มีสติและมีจุดมุ่งหมาย โดยที่คุณจะวาดภาพทางจิตใจถึงผลลัพธ์ทางการเงินที่คุณปรารถนา ลองนึกภาพบัญชีที่มีเงินล้นเหลือ บ้านในฝัน วันพักผ่อนอันหรูหรา หรืองานการกุศลที่คุณสามารถทำได้ด้วยความมั่งคั่ง จงรับรู้ถึงความสุข ความโล่งใจ และความเป็นอิสระที่ความร่ำรวยนั้นนำมา

เรื่องนี้ไม่ใช่ความโลภ แต่เป็นการเชื่อมโยงพลังงานของคุณเข้ากับความอุดมสมบูรณ์ของจักรวาล ด้วยการนึกภาพความมั่งคั่ง คุณกำลังสั่งการจิตใต้สำนึกของคุณให้เชื่อในความร่ำรวย ซึ่งจะช่วยดึงดูดมันเข้ามายังชีวิตของคุณ

ยืนยันความร่ำรวยทุกวัน

การใช้พลังของถ้อยคำคือสิ่งสำคัญยิ่งในการยืนยันความมั่งคั่งของคุณทุกวัน สร้างความเป็นจริงที่เป็นบวกและเจริญรุ่งเรืองด้วยทุกคำยืนยันที่คุณเปล่งออกมา นี่ไม่ใช่แค่ความคิดที่ปรารถนาดี แต่เป็นการหลอมรวมเข้ากับคลื่นความถี่แห่งความมั่งคั่ง

ด้วยการยืนยันว่า ‘ฉันมั่งคั่ง ฉันมีเหลือเฟือ’ คุณไม่ได้แค่พูดมันออกมา แต่คุณกำลังมีชีวิตแบบนั้น แต่ละคำพูดจะก้องกังวานลึกเข้าไปภายในตัวคุณ

ปรับแนวคิดของคุณให้สอดคล้องกับความมั่งคั่ง แต่นี่ไม่ใช่เรื่องทำหนเดียวแล้วจบ ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณ

เมื่อคุณตื่นนอน จงยืนยันความร่ำรวยของคุณ และเมื่อคุณนอนหลับ ปล่อยให้ความคิดเหล่านี้แทรกซึมเข้าไปในความฝัน

การฝึกฝนนี้จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตของคุณ จำไว้ว่าคุณไม่ได้แค่ปรารถนาความร่ำรวย แต่คุณกำลังดึงดูดมัน เฉลิมฉลองมัน และใช้ชีวิตกับมันในแต่ละวัน

แบ่งปันความอุดมสมบูรณ์

เมื่อคุณสร้างหลักการยืนยันความร่ำรวยของคุณในแต่ละวันไว้เรียบร้อย ก็ถึงเวลาแล้วที่จะชื่นชมกับความอุดมสมบูรณ์ที่คุณได้สร้างขึ้น แล้วแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับผู้อื่น

การแบ่งปันไม่ได้ทำให้ความมั่งคั่งของคุณลดน้อยถอยลง หากแต่ยิ่งเพิ่มพูนมันขึ้นไปอีก เมื่อคุณให้ จักรวาลจะตอบแทนกลับมาด้วยการเพิ่มพูนสิ่งดี ๆ ให้กับคุณ นี่คือวัฏจักรแห่งความเจริญรุ่งเรือง

แสดงความรู้สึกขอบคุณสำหรับความร่ำรวยของคุณ เฉลิมฉลองความสำเร็จที่เกิดขึ้น และกระจายความสุขนี้ให้ผู้อื่น ด้วยการทำเช่นนี้ คุณกำลังดึงดูดความอุดมสมบูรณ์ให้เข้ามาในชีวิตมากยิ่งขึ้น โปรดจำไว้ว่า ความร่ำรวยไม่ได้มีแค่การสะสมทรัพย์สมบัติ แต่มันคือการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรืองและการใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์

ขอให้ยึดมั่นในกุญแจทองแห่งความอุดมสมบูรณ์ เพื่อไขไปสู่โลกแห่งความมั่งคั่งที่อยู่ภายในตัวคุณ ตั้งเป้าหมายของตัวเองให้แน่วแน่ เชื่อมต่อจิตใจเข้ากับความถี่ของจักรวาล แล้วเติมเต็มความคิดของคุณด้วยคำยืนยันแห่งความมั่งคั่ง

ใช้ชีวิตอย่างเสรี ให้อย่างใจกว้าง รักษาวิถีคิดนี้ไว้ และเฉลิมฉลองอิสรภาพทางการเงินของคุณ คุณไม่ได้แค่ร่ำรวย คุณคือตัวแทนแห่งความมั่งคั่ง

ด้วยคำแนะนำในบทความนี้ คุณไม่ได้แค่อ่านเกี่ยวกับความร่ำรวย แต่คุณกำลังดึงดูดมันเข้ามา จำไว้ว่าคุณไม่ได้เพียงแค่ดึงดูดความมั่งคั่ง แต่คุณกำลังประกาศว่า ‘ฉันรวย‘